Tag: sapporo
-
[รีวิวฮอกไกโด] : วิธีเดินทางไป ฮาโกดาเตะ ด้วยรถบัส (Bus from susukino to Hakodate)
วิธีเดินทางจากซัปโปโรไปฮาโกดาเตะนั้น มีให้เลือกอยู่หลายแบบด้วยกัน แต่ถ้าพูดถึงการเดินทางด้วยรถสาธารณะ มีให้เลือก 2 วิธี นั่งรถไฟ จากสถานีซัปโปโร (Sapporo Station) -> สถานีฮาโกดาเตะ (Hakodata Station) ใช้เวลา 3.40 ชม. ราคา 8,830 เยน ประมาณ 2,600 บาท นั่งรถบัส ซึ่งเรานั่งจาก Shiden Tram Susukino -> Hakodate Station Terminal ใช้เวลา 6 ชม. ราคา 4,600 เยน ประมาณ 1,380 บาท (ถ้าเลือกไปตอนกลางคืนก็จะประหยัดค่าโรงแรมไปในตัว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยและเพลียกว่าเดิมนะ><) เราจองตั๋วรถบัสผ่าน Website : https://japanbusonline.com/en/ ก่อนเวลา 1 ชม. เราเดินมารอที่ป้ายนี้แล้ว พิกัด : 43.0556302,141.3522879 อยู่ใกล้ๆ…
-
[รีวิวฮอกไกโด] : โรงงานช็อคโกแลต Ishiya chocolate factory (ห้ามพลาด!!คุ๊กกี้สอดไส้และไอศกรีม)
ในขณะที่หิมะเพิ่งหยุดตกใหม่ๆ พื้นทางเดินกลายเป็นสีขาวอย่างกับปุยนุ่น พวกเรากำลังย่างเท้าก้าวเข้าสู่ “เมืองแห่งช็อคโกแลต” “Ishiya Chocolate Factory” สถานที่ๆคุ้นหูคุ้นตาอย่างมากมาย จากในเว็บไซต์และหนังสือท่องเที่ยวต่างๆ เป็นสถานที่ที่แม้จะอยู่จากอีกฝากนึงของถนนก็งดงามพร้อมจะเดินข้ามตรงเข้าไปหาอย่างรวดเร็วแล้ว เข้ามาใกล้อีกนิดยิ่งน่าหลงไหล ทุกสิ่งทุกอย่างจัดตกแต่งออกมาลงตัวเป็นอย่างดี เหมือนเจ้าตุ๊กตาหิมะกำลังเรียกร้องความสนใจให้เราเข้าไปใกล้ขึ้นทุกทีๆ แค่เพียงก้าวเท้าเข้าไปในสวน ชิโรอิโคอิบิโตะ(Shiroi Koibito Park) การแสดงก็เริ่มต้นขึ้นด้วยเสียงเพลงอันไพเราะสดใสพร้อมกับหุ่นตุ๊กตารอบๆ ตึกที่กำลังโยกไปมา โบกไม้โบกมื้อกันยกใหญ่หันไปมองรอบๆกายที่นี่คล้ายกับเมืองเวทย์มนต์ที่พ่อมดแม่มดกำลังเสกสิ่งก่อสร้างรังสรรค์ทุกอย่างให้ออกมาครึกครื้นสวยสดงดงาม สวนชิโรอิโคอิบิโตะ(Shiroi Koibito Park) แห่งนี้เป็นเพียงสวนสาธารณะที่ด้านหน้าที่สามารถเข้ามาชมได้ ฟรี!!! พร้อมกับข้างในที่สามารถเข้าไปซื้อขนม และของฝากได้อีกด้วย ในแต่ละฤดูที่นี่ยังจัดตกแต่งสวนแตกต่างกันออกไป ฤดูหนาวก็เป็นเมืองหิมะ ส่วนฤดูอื่นๆก็จะมีสวนดอกไม้หลากสีสัน คราวนี้พวกเรามาต้นฤดูหนาวก่อนวันคริสมาสต์ ที่นี่จึงกลายเป็นสวนของซานต้า มีตุ๊กตาหิมะ ตุ๊กตาหมี ต้นคริสมาสต์ ประดับตกแต่งได้อย่างสวยงาม ส่วนครั้งก่อนเป็นช่วงเดือน พฤศภาคม ทั้งสวนเต็มไปด้วยดอกไม้ที่กำลังแข่งกันเบ่งบานชูช่ออวดสีสันที่สวยงามของแต่ละสายพันธุ์ ทำให้ไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ไม่รู้สึกเบื่อเลย และ…..ภาพธรรมดาๆที่ข้าเจ้าถ่ายมา แต่ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งก็ฟินซะทุกครั้งก็คือภาพนี้ ที่เหมือนกับในหนัง พระเองนางเอกกำลังจะบอกรักกัน อะไรมันช่างโรแมนติกขนาดนี้ เดินเล่นด้านนอกซึมซับความโรแมนติกอยู่นานจนตัวเริ่มจะแข็งถึงเริ่มรู้สึกว่าควรแก่การเข้ามาข้างในกันได้แล้ว ห้องโถงหรูหราที่ชั้นล่างคือ ขนมของฝาก ส่วนชั้นบนเป็นร้านคาเฟ่ที่ควรค่าแก่การขึ้นไปมากๆ ชั้นบนที่เป็นโซนคาเฟต์ หากใครมาถึงแล้วต้องไม่พลาด!!! ไอติม ไอติม ไอติม🍦🍦🍦 ของที่นี่อร่อยสุดๆ อันที่จริงก็มีเบเกอรี่อยู่หลากหลายให้ได้ลิ้มลอง…
-
[รีวิวฮอกไกโด] : ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่าFormer Hokkaido Government Office(北海道庁旧本庁舎) – ทำเนียบอิฐแดง
หากเรายังพอมีเวลาเดินเล่นอยู่ใกล้ๆ สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) นอกจากแหล่งช๊อปปิ้ง และ[รีวิวฮอกไกโด] : หอนาฬิกาSapporo Clock Tower (札幌時計台, Sapporo Tokeidai) แล้วก็ยังมีอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่เดินไม่ไกลก็ไปถึง นั่นคือ… ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (ทำเนียบอิฐแดง) หรือ Former Hokkaido Government Office(北海道庁旧本庁舎) ถึงแม้ในช่วงหน้าหนาวแบบนี้เราจะไม่ได้เห็นสวนดอกไม้ด้านหน้าอาคารขณะนี้มีเพียงฟางกันหิมะที่คลุมต้นไม้อยู่ มันก็สวยแปลกตาดีเหมือนกัน ส่วนตัวอาคารที่ก่อสร้างจากอิฐจึงทำให้เป็นที่เรียกกันว่า ‘ทำเนียบอิฐแดง’ หรือ ‘อะคะเร็งกะโจฉะ’ ในภาษาญี่ปุ่นซึ่งอาคารหลังนี้ได้เป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งชาติญี่ปุ่น มีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก คือสัญลักษณ์ตัวแทนของทูตบุกเบิก ภายในอาคารเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และมีการจัดแสดงข้อมูลสิ่งของที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของฮอกไกโด หากมีเวลามากพอสามารถรับฟังการบรรยายจากไกด์อาสาที่คอยให้ความรู้เพิ่มเติมด้วยความเต็มใจ จากหน้าต่างไม้บานเก่าๆ ที่ข้าเจ้ากำลังจะมองผ่าน แต่แล้วสายตาก็มาสะดุดกับภาพบรรยากาศภายนอกที่สามารถมองทะลุออกไปยังถนนไกลสุดลูกหูลูกตา สิ่งที่สะดุดตาอย่างที่สองก็คือของที่ระลึกจากทางประเทศไทยของเรา ช้างหยกแกะสลักสวยงาม สิ่งสะดุดตาอย่างสุดท้าย555 นั่นก็คือเจ้ากวางตัวนี้ที่ถ้ามันย้ายสถานที่ตั้งไปอยู่ด้านนอกอาคารผู้คนคงจะตกใจกันไม่น้อย ★★★Former Hokkaido Government Office(22/11/2018)★★★อาคารนี้จะเปิดไฟส่องประดับให้ผู้คนได้ชื่นชมวิวหลายแบบแตกต่างกันไปทั้งช่วงเช้า กลางวันและกลางคืนใช้เวลาเยี่ยมชมประมาณ 1 ชม. หากมีเวลาก็เป็นแลนด์มาร์กนึงที่น่าแวะมาชมประวัติศาสตร์เล็กๆน้อยๆ แต่หากไม่มีเวลาจะแค่มาแวะถ่ายรูปก็ได้ เวลาทำการ : 8:45 น.-18:00…
-
[รีวิวฮอกไกโด] : หอนาฬิกาSapporo Clock Tower (札幌時計台, Sapporo Tokeidai)
Sapporo Clock Tower (札幌時計台, Sapporo Tokeidai) หอนาฬิกาโบราณประจำเมืองซัปโปโรที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์ก แค่ภายนอกก็แสดงให้เห็นถึงความเก่าแก่ขึงขลังที่ผ่านยุคสมัยมาหลายกาลและเวลา เพราะที่นี่เป็นสิ่งก่อสร้างสไตล์ตะวันตกที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองซัปโปโรด้วย การเดินทางมาที่นี่ก็ง่ายมากๆ เพราะใกล้สถานีโอโดริ (Odori station) ซึ่งเป็นใจกลางเมืองซัปโปโร รอบบริเวณยังเป็นแหล่งช๊อปปิ้งหลัก และยังมี [รีวิวฮอกไกโด] : ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่าFormer Hokkaido Government Office(北海道庁旧本庁舎) หรือทำเนียบอิฐแดง ด้วย ที่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กด้วย ข้างบนยอดตึกยังมีนาฬิกาโบราณที่ยังทำหน้าที่คอยบอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรง พร้อมทั้งเสียงระฆังที่ดังกังวานในทุกๆ ชั่วโมงยามเพื่อบอกเวลา อาคารหลังนี้มีสถาปัตยกรรมเป็นอาคารไม้ที่มีหลังคาสีแดงและผนังสีขาวออกเหลืองในสไตล์บ้านที่นิยมในอเมริกากลางและอเมริกาตะวันตกในช่วงยุคบุกเบิก ที่ห้องแสดงนิทรรศการชั้น 1 มีการจัดแสดงประวัติศาสตร์เรื่องราวของหอนาฬิกา แสดงประวัติความเป็นมาของเกษตรในเมืองซัปโปโร และการพัฒนาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ส่วนข้าเจ้ากับขุ่นพ่อนั้นกลับสนใจที่จะนั่งฟังเสียงระฆังจากประเทศต่างๆ บนแท่นสี่เหลี่ยม หอนาฬิกาซัปโปโรแห่งนี้ว่ากันว่า แรกเริ่มเดิมทีมีดอกเตอร์ท่านหนึ่ง ชื่อดร.จอห์น คลาร์ก ซึ่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนรุ่นแรกของวิทยาลัยการเกษตรซัปโปโร(มหาวิทยาลัยฮอกไกโดในปัจจุบัน) ต้องการสร้างเป็นโรงแสดงศิลปะการต่อสู้ โดยสร้างเป็นอาคารไม้แบบโครงสร้างแบบบอลลูน ซึ่งเป็นที่นิยมในอเมริกากลางและอเมริกาตะวันตกในช่วงยุคนั้น ส่วนชั้นที่ 2 นั้นก็จะเป็นห้องโล่งๆที่สมัยก่อนเป็นโรงแสดงศิลปะการต่อสู้ แต่ปัจจุบันมีนาฬิกาที่ใหญ่อันใหญ่ตั้งโชว์พร้อมกับไกด์อาสาทำหน้าที่คอยอธิบายประวัติความเป็นมาต่างๆให้ได้ฟัง และในห้องโถนี้ยังส่วนที่ใช้สำหรับทำพิธีต่างๆ มีเก้าอี้ให้นั่งอย่างกับอยู่ในโบสถ์ไม่มีผิด นี่ก็คือผู้เริ่มก่อตั้งหอนาฬิกาแห่งนี้ ดร.จอห์น คลาร์ก นั่นเอง จนในปีพ.ศ.2513…
-
[รีวิวฮอกไกโด] : สุดยอดบรรยากาศโรแมนติกต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสที่ตลาด German Christmas market sapporo
ในระหว่างการเดินทางท่ามกลางความหนาวเย็นจากเกล็ดน้ำแข็งสีขาวที่กำลังร่วงลงมาจากท้องฟ้ามองไปทางใดก็เห็นเพียงแค่แสงไฟสลัวๆ ในม่านหมอกและรถยนต์ที่กำลังขับผ่านไปมาพร้อมเสียงล้อรถที่ถูกับพื้นน้ำแข็งเสียงดังฟรืดๆ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกของทุกๆ คนในทริปที่ได้เห็นหิมะตกหนักแบบนี้ ทำเอาตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นกันยกใหญ่เลย^^ แต่เพียงแค่ข้ามถนนมายังสวนโอโดริแห่งนี้ หมอกจางๆ ที่ปกคลุมไปทั่วชั้นบรรยากาศเมื่อกี้ก็เริ่มจางหายไปผู้คนประปรายจากภาพที่เห็นก่อนหน้าตอนนี้กลับคึกคักเดินสวนกันไปมาขวักไขว่ เพราะนี่ก็คือ เทศกาลตลาดคริสต์มาสเยอรมัน หรือ เทศกาลตลาดคริสต์มาสมิวนิก ในเมืองซัปโปโร นั่นเอง ซึ่งเป็นที่ๆ สุดยอดแห่งบรรยากาศโรแมนติกต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย ถึงขนาดที่บางคนลืมความหนาวไปซะสนิทมาเดินย่ำหิมะซื้อของกันโดยไม่สนใจที่จะกางร่มหรือใส่หมวกอยู่กลางงานเทศกาลหลายคนเลย เป็นช่วงเวลา 1 เดือนเต็มแห่งการสัมผัสบรรยากาศคริสต์มาสสไตล์เยอรมันแบบนี้ โดยเริ่มงานเทศกาลตั้งแต่ November 22– December 25, 2018 เทศกาลตลาดคริสต์มาสเยอรมัน หรือ เทศกาลตลาดคริสต์มาสมิวนิก นี้เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2002 ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 30 ปีแห่งสายสัมพันธ์อันดีงามกับเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน จึงมีร้านค้าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของทางฝั่งเยอรมันเข้ามาขายกันอยู่หลายร้าน โดยเฉพาะอาหารสไตล์เยอรมัน เช่นพวกฮอทดอก เนื้อย่าง บาร์บีคิว เบียร์ และขนมต่างๆ พร้อมทั้งของที่ระลึกในเทศกาลคริสต์มาสก็ให้เดินชมกันอย่างเพลิดเพลิน หากอยากทานอาหารด้วยบรรยากาศแสนจะอบอุ่นหล่ะก็ให้เข้าไปในโดมเต็นท์แห่งนี้ ที่มีที่นั่งและเครื่องทำความร้อนจึงบริการอยู่ แต่นั้นแหละ ณ เวลาแบบนี้ใครๆ ก็ต้องการความอบอุ่น แถมวันนี้ยังเป็นวันแรกของงานเทศกาลด้วย โดมสีแดงจึงอัดแน่นไปด้วยผู้คนจนแทบไม่มีที่ยืน พวกเราจึงเริ่มต้นด้วยโต๊ะยืนภายนอกที่ตอนนี้โต๊ะทุกตัวกลายเป็นโต๊ะหิมะปุกปุยไปหมดแล้ว มายืนหนาวๆ ข้างนอกมันก็เข้าท่าไปอีกแบบ รู้สึกได้สัมผัสกับบรรยากาศ(หนาว)ที่แท้จริง5555 และพวกเราก็เริ่มต้นด้วยเบียร์อุ่นๆมายืนจิบกัน…
-
[รีวิวฮอกไกโด] : Sapporo Factory (サッポロファクトリー) แหล่งช๊อปปิ้ง & มุมถ่ายรูปเพียบ
อาคารพาณิชย์แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของ “โรงกลั่นสุราแห่งชาติฮอกไกโด” ซึ่งสร้างโดยคณะกรรมการพัฒนาฮอกไกโดเมื่อปี 2419 โรงเบียร์คณะกรรมาธิการการพัฒนาฮอกไกโดเป็นโรงเบียร์แห่งแรกที่ผลิตโดยชาวญี่ปุ่น อาคารแบ่งออกเป็นเจ็ดส่วน สิ่งที่ทำให้มันเป็นตัวละครคือ “เอเทรียม” ซึ่งคล้ายกับเรือนกระจกขนาดใหญ่ มีเพดานเปิดจากชั้นใต้ดินถึงชั้นสี่และผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่ร้านค้ากลางแจ้งที่หลากหลายและสินค้าตกแต่งภายใน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นเดือนธันวาคมต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ถูกนำมาจากเมือง Hiroo ในเขต Tokachi และตกแต่งด้วยแสงไฟ ผู้เข้าชมยังสามารถเพลิดเพลินกับเบียร์ชิมที่ทำขึ้นในช่วงเริ่มต้นของโรงเบียร์ราคา 250 เยนที่ Sapporo Development Beer Store ในพื้นที่จัตุรัส Entotsu (Chimney) โรงงานซัปโปโรเป็นโรงงานที่มีร้านค้าประมาณ 160 ร้านรวมถึงร้านค้าร้านอาหารและโรงแรม มันแบ่งออกเป็น 7 อาคารเพื่อให้คุณสามารถเดินเที่ยวได้ทั้งวันโดยไม่เหนื่อยซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เป็นที่นิยมมาก ยังคงเป็นที่ตั้งของโรงเบียร์ Kaitakushi ซึ่งเป็นโรงเบียร์แห่งแรกในญี่ปุ่นที่มีคนญี่ปุ่นตั้งอยู่และยังมีห้องจัดแสดงนิทรรศการที่ทุกคนในครอบครัวสามารถเพลิดเพลินกับการดื่มเบียร์และชิมเบียร์สด นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่คุณสามารถเรียนรู้วิธีการทำเครื่องปั้นดินเผาหรือเครื่องแก้วของคุณเองดังนั้นนี่จึงเป็นสถานประกอบการที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่หลากหลายนอกเหนือจากการช็อปปิ้ง มันยอดเยี่ยมสำหรับการออกเดทหรือไปเที่ยวกับครอบครัว โซนร้านขายของกระจุกกระจิก โถงกลางอาคารที่มีต้นคริสมาสต์ขนาดใหญ่ตั้งโชว์อยู่ และจะมีไลท์อัพแสงไฟด้วย ★★★Sapporo Factory(22/11/2018)★★★ ถ้าหากว่าอยากช๊อปปิ้งด้วย เดินชิลๆ แล้วได้ภาพสวยๆ มาอีกเพียบขอแนะนำเลยจ้า 🙂กดไลค์ & แชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ🙂 ★ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่ FACEBOOK : Me…
-
[รีวิวฮอกไกโด] : บุฟเฟต์ขาปูของฮอกไกโดที่ห้ามพลาด บุฟเฟต์นันดะ-Buffet Nanda Sapporo
ใครมาเยือนฮอกไกโด คงจะไม่พลาดกับร้านฮิตติดชาร์ต social อย่างขาปูยักษ์บุฟเฟต์ ที่ใครๆ ก็ต่างพูดถึงนั่นคือ ร้าน “นันดะ” หรือ Buffet Nanda Sapporo เพราะเป็นร้านที่ราคาไม่แพงเลยสำหรับบุฟเฟต์ขาปูยักษ์ ที่ไม่ได้มีเพียงแค่ขาปูแต่ยังมีเนื้อแกะ เนื้อวัว ซูชิ ปลาดิบ ผัก ผลไม้ ไปจนถึงของหวานอย่างไอติมอีกหลายรสชาติกันเลยทีเดียว ตรงนี้แหละทางเข้า สามารถลงลิฟต์ หรือเดินลงบันไดไปที่ชั้นใต้ดินก็ได้ ไปที่ชั้น B2 (พวกเราเดินมาจองคิวล่วงหน้าก่อนหนึ่งวัน) ด้านล่างนี้ถ้าหากมาจองคิวก็ติดต่อที่เคาน์เตอร์ได้เลย เค้าจะให้เราเลือกช่วงวันเวลาที่ต้องการจอง แต่ถ้าจะเข้ามากินไปที่ตู้จ่ายเงินอัตโนมัติได้เลย เค้าจะมี 2 ช่วง คือช่วงตอนเที่ยง และตอนเย็น และระยะเวลาที่กิน(มี70นาที, 80นาที และ 100นาที) ซึ่งไลน์อาหารทั้งสองช่วงนี้เหมือนกัน แต่ราคาตอนเย็นจะสูงกว่าตอนกลางวัน ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องปกติของร้านอาหารในญี่ปุ่น พวกเราเลือกแบบ 4320 เยน 80 นาที ทานช่วงกลางวัน พนักงานจะเริ่มแนะนำอาหารให้พวกเราเริ่มต้นจากด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง จากนั้นก็พาเราไปนั่งที่โต๊ะ ปูมี 3 ชนิด ปูขน ปูสีไว…
-
[รีวิวฮอกไกโด] : ความสวยงามยามค่ำคืนของ Sapporo Beer Museum (サッポロビール博物館)🍺 และเนื้อย่างเจงกิสข่าน(Genghis Khan)
Sapporo Beer Museum (サッポロビール博物館) เป็นแหล่งผลิตเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และรสชาติเบียร์ของที่นี่ก็ยังทำให้คอเบียร์ติดใจจนโด่งดังไปทั่วโลกด้วยชื่อ “Sapporo Beer” ตามสถานที่ผลิตนี่เอง ที่นี่เค้าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของซัปโปโรที่นักเที่ยวต่างต้องเดินทางมาเยี่ยมชมนั่นก็เพราะ Sapporo Beer Museum (サッポロビール博物館) มีพิพิธภัณฑ์เบียร์ที่จัดแสดงกระบวนการผลิตเบียร์ เครื่องมือสำหรับการต้มเบียร์ และประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเบียร์ ในบริเวณชั้นที่ 2 และ 3 (ฟรี) นอกจากนั้นหากต้องการชมแบบพรีเมียม (มีค่าใช้จ่าย)ในทุก ๆ 20 นาที เค้าจะมีไกด์พาทัวร์เพิ่มเติม เช่น วิธีการรินเบียร์ให้ถูกวิธี ส่วนในบริเวณชั้น 1 จะมีเลาจ์ให้ทดลองชิมผลิตภัณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเบียร์ซัปโปโรอีกหลายชนิดด้วย Sapporo Beer Garden สวนเบียร์ซัปโปโร ที่มีร้านอาหารบุฟเฟต์ All You Can Eat สไตล์เนื้อแกะย่างเจงกิสข่าน(มีไก่ หมู เนื้อแกะให้เลือก) อาคารอิฐแดงหลังใหญ่ที่มีปล่องไฟสูงขึ้นไปบนฟ้าสวยงามอลังการเหมาะแก่การเก็บภาพไว้ในความทรงจำ ห้าง Ario Sapporo (アリオ札幌) ที่มีร้านค้าให้ช๊อปปิ้งมากมาย เช่น Uniqlo, GU, ABC…