:+:+:+:Ketogenic:+:+:+:

หากใครหลงเข้ามาในหน้านี้คงจะงง ๆ และมีคำถามในใจว่า “มันคือไรอ่อ???” แบบนี้แน่ๆ 555  แต่หากใครเป็นเผ่าเดียวกันคงจะรู้ว่า…..

คีโตเจนิค (Ketogenic) คือ รูปแบบการทานอาหารประเภทหนึ่งที่ช่วย “ลดความอ้วน” โดยไม่ต้องอดอาหาร แต่ต้องไม่กินแป้งและน้ำตาล(แต่!!!สามารถกินน้ำตาลบางประเภทได้) และเน้นกินไขมันแทน ทำให้น้ำหนักลด เป็นกลไกการดึงพลังงานของร่างกายซึ่งรายละเอียดศึกษาเพิ่มเติมจาก google ได้เลยจ้า

ก่อนกิน “วิถึคีโต”ควรศึกษาให้ดี (เน้นว่าควรศึกษาก่อนไม่งั้นมันจะไม่ดีต่อร่างกายเราเอง)และถ้ากินอย่างถูกวิธี มันไม่ใช่แค่จะทำให้น้ำหนักลดลงนะ แต่มันยังช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งหลักๆ ที่เราหวังผลจากการกินคีโตคือ ช่วยทำให้ไขมันเลวในร่ายกายลดลง (โคเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์ และ LDL) และน้ำตาลในเลือดด้วย เนื่องจากการตรวจสุขภาพที่ผ่านๆ มานั้น 2 อย่างนี้นำโด่งสูงเกินค่ามาตรฐานไปหลายชั้นแล้ว555

ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รู้จักหรอก อะไรๆๆ อะไรนะ!! คีโต อือๆ เคยได้ยิน แล้วมันก็ผ่านไปหลายครั้งหลายครา และแล้วก็มาเจอคุณพี่คนนึง คือเมื่อก่อนนางอ้วนมากๆ แล้วนางก็ลดความอ้วนมาหลากหลายวิธี ซึ่งก็ไม่เคยเห็นนางผอมลงเลยซักวิธีเดียวนะ และไม่เคยเห็นว่านางจะคงอยู่กับวิธีลดความอ้วนวิธีไหนได้นานๆ เลย จนตอนหลังมาเห็นว่านางมาลงเอยกับ “วิถีคีโต” ที่นางชอบเรียกเราก็เริ่มสงสัยมานิดๆ ละ

คนแรกผ่านไป….พร้อมกับเวลาอีกหลายเดือนที่ล่วงเลย…เราก็ไปเจอกับพี่สาวเราอีกคนซึ่งเห็นได้ชัดว่าพี่เค้าผอมลง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้อ้วนนะ แต่แบบมันเห็นชัดมากเลยไงว่าผอมลง ไอ้เราก็อยากรู้วิธีเนื่องจากพี่เค้าเป็นหมอด้วยไง พี่เค้าก็บอกว่ากิน “คีโต” นั่นๆๆๆ มาอีกรายละ มันคืออะไรกันแน่!!! เริ่มสงสัยหนักกว่าเดิมละงานนี้

หลังจากนั้นเราก็เริ่มๆ ศึกษาหาความรู้นิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ยังไม่ได้ทดลองทำ เพราะความจริงเราเป็นคนชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว ไปวิ่งบ้าง เดินเยอะๆ บ้าง (วันละ 10,000 ก้าวขึ้นไป) ช่วงที่มีเวลาเยอะหน่อยตั้งใจออกกำลังกาย ทำสควอชจนแบบว่าเฟิร์มขึ้นมากเลยเอาไปแชร์ลงบทความในพันทิพ (อันนี้แหละ ใครสนใจลองอ่านดูได้จ้า https://pantip.com/topic/36849979) เราเลยไม่ได้อ้วน แต่ก็อยู่ในระยะสตาร์ท555

เนื่องจากเราเป็นคนติดขนม กินจุกจิกเรื่อยๆ ทุกวันเลยนะ จนแฟนบอกว่าไม่เคยเห็นใครกินขนมเยอะเท่าเราเลย ซึ่งเราก็ว่าท่าจะจริงนะ เพราะเวลาไปเที่ยวกับใครก็ไม่เห็นมีใครเค้าตุนขนมใส่กระเป๋าไปด้วยซักคน555 แต่เราไม่ค่อยชอบกินข้าวนะ ส่วนใหญ่เรากินข้าวแค่ทัพพีเดียวแล้วก็กินแต่กับตลอด ทำให้ช่วงที่มีเวลาออกกำลังกายหุ่นก็จะเฟิร์ม(แต่ก็ไม่ผอมนะ)

เราสูง 158 เซ็นติเมตร ตอนสมัยเรียนมหาลัยน้ำหนักประมาณ 46 กิโลกรัม พอจบมาก็เริ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนช่วงพีคๆ ก็ 53 กิโลกรัม หลังจากนั้นก็พยายามกินคลีน หาวิธีออกกำลังกาย นั่นนู่นนี่ วนๆ ไป ก็ลดลงมาเหลือ 51 ช่วงออกกำลังกายเยอะๆ ก็ลงมาเหลือ 50 แต่ช่วงชีวิตนี้เราไม่สามารถหยุดกินหนมได้เลยนะ>,<

และช่วง 3 เดือนก่อน….. แล้วเหตุการณ์ความเครียดและงานก็ประเดประดังเข้ามาแบบไม่หยุดหย่อน วันๆ ทำงานเสร็จก็หาอะไรกินแล้วก็ดริ้งก่อนนอนให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ ไม่อยากไปไหน ไม่อยากออกกำลังกาย คือเครียดจนไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลย เวลาร่วงเลยไปแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น น้ำหนักขึ้นมาเป็น 52 กว่าๆ และที่สำคัญพุงมาแบบไม่เคยสัมผัสมาก่อน555 ซึ่งเรารู้สึกว่าทำไมอยู่ๆมันใหญ่ขึ้นเร็วขนาดนี้ สงสัยจะเพราะเรากินค็อกเทลทุกวันแน่ๆ จากปกติก็มีพุงอยู่แล้วหน่อยๆ แต่ตอนนั้นคือใส่กระโปรงแทบไม่ได้ ต้องหาอะไรปิด หรือไม่ก็แขม่วตลอด ช่วงนั้นคือหายใจไม่ทั่วท้องเลย ต้องแอบหันหลังให้คนอื่น แอบผ่อนพุงเป็นระยะๆ ขอโทษทีที่พูดซะเห็นภาพ555

3 อาทิตย์ที่ผ่านมา (11/9/2562) ทำให้ภาพอดีตที่เคยได้ยินเรื่องราวต่างๆ นาๆ เกี่ยวกับคีโตก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง ความคิดที่ิอยากจะลองก็เด้งขึ้นมา ปิ้ง!!! ณ จุดๆ นี้มันสมควรแก่เวลาเจ้าแล้ว!!! เจ้าควรจะหยุดกันแป้งซะที ห๊ะ!! แป้ง ขนมปัง โอ้ยย นั่นมันของโปรของข้า (นี่คือสิ่งที่คิดว่าจะไม่ได้กินมันไปอีกนาน ที่ไหนได้มารู้ทีหลังว่าขนมปังคีโตก็มี บอกแล้วให้ศึกษาๆ 555)

2-3 วันแรก เรายังกินอาหารนอกบ้านอยู่ แต่ไม่กินแป้ง ไม่กินน้ำตาลปกติ มากินน้ำตาลหญ้าหวาน, อิริทริทอล และหล่อฮังก้วยแทน (บอกแล้วว่ายังกินหวานได้อยู่) และกินถั่วอัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แมคคาเดเมีย ณ จุดๆ นั้น จริงๆ ก็รู้นะว่าเค้าไม่ให้กินแป้งเกิน 20 กรัมต่อวัน แต่ไม่รู้ว่าต้องเช็คยังไง ล่อถั่วทีครึ่งถุง บัดซบจริงพี่ชาย5555 และช่วงนั้นก็เริ่มมีอาการปวดหัวช่วงเย็นๆ หรือที่เค้าเรียกว่า “คีโตฟลู (Keto Flu)” ซึ่งมีวิธีแก้

วันที่ 4 เราก็เสิร์ชหาร้านคีโตซึ่งบ้านเราอยู่เชียงใหม่เลยเสิร์ชไปเจอร้าน “Sweet Keto Cafe” เปิดดูเพจโอ้ยขนมเต็มเลยเรานี่เตรียมออกจากบ้านเลยจ้า555 ขับรถไปถึงปุ๊ปเข้าร้านปั๊ปเล็งไว้หลายอย่าง พอสอบถามพนักงานที่ร้านเค้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ดีที่เค้าต่อสายให้คุยกับเจ้าของร้าน+เจ้าของร้านกลับมาภายหลัง พี่เค้าก็มาอธิบายให้ฟังหลายอย่าง….

เค้าบอกว่า ใน 1 เดือนแรก เป็นไปได้ควรทำอาหารกินเอง(ต้องใช้เครื่องปรุงที่ไม่มีผงชูรสและน้ำตาล)เพราะอาหารนอกบ้านส่วนใหญ่ใส่ผงชูรสซึ่งมันไปกระตุ้นอินซูลินและยังไม่ต้องกินผักและผลไม้เลยก็ได้(ถ้าเรานับคาร์บไม่เป็น)

คีโตในช่วงแรกจะกินคาร์โบไฮเดรต หรือเรียกย่อๆ ว่า “คาร์บ” ได้ไม่เกิน 20 กรัมต่อวัน ซึ่งในอาหารที่เรากินเข้าไปบางอย่างมันมีคาร์บแอบแฝงอยู่ (อ่านฉลากโภชนาการและส่วนประกอบหลังผลิตภัณฑ์) ช่วงแรกนี้ร่างกายกำลังเปลี่ยนจากการใช้แป้งเป็นใช้ไขมัน ถ้าเราเกิดไปกินคาร์บเกินร่างกายมันก็จะไม่ยอมไปดึงไขมันมาใช้ซะที มันก็จะรอให้เรากินแป้งอยู่ดี สรุปคือจะทำให้อ้วนขึ้นจ้าก็เล่นกินทั้งแป้งทั้งไขมันเพิ่ม

อาทิตย์แรก : สรุปแล้วน้ำหนักลดลงไป 1 กิโลกรัม เหลือ 51.5 กว่าจะเข้าใจก็ล่อมากลางอาทิตย์แล้ว555 จากนั้นเราก็นับคาร์บเป็นขึ้นมาบ้างละ อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อทุกครั้ง จริงๆ เค้าให้ดู BMR ด้วยนะว่าส่วนสูงเราเท่านี้น้ำหนักเท่านี้ควรกินต่อวันกี่แคลอรี่ แต่เราไม่ได้คำนวณเลย เพราะทำไม่ได้จริงๆ ><

อาทิตย์ที่ 2 : น้ำหนักลดลงอีกไป 1 กิโลกรัม เหลือ 50.5 ที่เซอร์ไพรซ์สุดๆ คือ เธอออ…เซลลูไลท์ชั้นหายไป!! กรี๊ดด ไม่ได้ออกกำลังกายแต่เซลลูไลท์หาย คือเรามีปัญหาเรื่องเซลลูไลท์มากกกก คือมีทุกที่เลยนะแม้กระทั่งที่คออ่ะ ขนาดว่าออกกำลังกายมันก็ใช่ว่าจะหายไปได้ง่ายๆ ต้องใช้เวลาอยู่เหมือนกัน แต่นี่คืออาทิตย์ที่ 2 ดีใจจุงเบยแม่จ๋า!!! แถมรู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้น(สงสัยน้ำมันมะกอกแทรกซึมเข้าสู่ผิว) เข้าห้องน้ำง่ายขึ้นซึ่งเดิมทีเราเป็นคนไม่มีปัญหาเรื่องการเข้าห้องน้ำอยู่แล้ว

อาทิตย์ที่ 3 : น้ำหนักเหลือ 50.3 ไปซื้อแผ่นตรวจคีโตมาด้วยนะ ลองเอามาวัดดูเป็นสีม่วงกลางๆ เย้!! ดีใจแปลว่าร่างกายเผาผลาญไขมันแล้ว

อาทิตย์ที่ 4 : ไม่ได้ชั่งน้ำหนักเพราะไปต่างจังหวัด และเตรียมตัวไปเที่ยว แต่เอาแผ่นตรวจคีโตมาเทส ตอนนี้มันกลายเป็นสีม่วงแบบว่าอ่อนมากกไปแล้ว(อาจเป็นเพราะเข้าภาวะคีโตซิสโดยสมบูรณ์หรือเปล่า??) และ…พุง!!! ที่หายไปตอนนี้มันพองขึ้นมาเหมือนเดิมทั้งๆ ที่ก็ยังกินคีโตปกติ

 ข้อสังเกตุ

  • อาจจะเป็นเพราะน้ำตาลอิควลจากร้าน True Coffee และ Starbucks ที่ไปซื้อมาเป็นน้ำตาลอิควลแบบที่ยังไปกระตุ้นอินซูลิน
  • กินอาหารนอกบ้านเจอการปนเปื้อนเยอะไป
  • กระบวนการกักเก็บน้ำในร่างกาย
  • ใกล้เป็นประจำเดือน
  • กินขนมคีโตเยอะไป(เรากินขนมเกือบทุกวันเลย สงสัยจะอันนี้ เง้อ!!)
  • หรือไม่ก็เกิดภาวะเครียดในร่างกาย

 

และ…ตอนนี้อยู่ระหว่างอาทิตย์ที่ 4 เรากำลังจะไปญี่ปุ่นพรุ่งนี้ เดี๋ยวไปดูกันว่าจะกินคีโตแบบไหนได้บ้าง555

หากใครสนใจเรื่องอาหาร การกินคีโต สามาราถติดตามได้ที่ fb.me/keto8mediary  ค่ะ

 

รีวิวเกี่ยวกับคีโต

[รีวิวกรุงเทพ] : ร้านปั้นคำหอม ขนมเค้กสำหรับคนเป็นเบาหวานหรือกินคีโต(Keto

[รีวิวกรุงเทพ] : ร้าน Printa Cafe หลังวัดแขกสีลมเสริฟอาหารคลีน&คีโต(Keto)

%d bloggers like this: