[เที่ยวโปรตุเกส] : วิธีการเดินทาง+วิธีการขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa for Portugal)

หากใครกำลังสนใจไปเที่ยวประเทศทางฝั่งยุโรปนั้นต่างก็ต้องรู้กันดีว่ายังงั้ยยังไงก็ต้องขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ซะก่อนถึงจะมีสิทธ์เข้าเมืองเค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นไปเที่ยว ไปทำงาน ไปเรียน ตามสามีเดินทาง หรือไปรักษาตัว พูดง่ายๆ คือถ้าหากไม่ได้เป็นพลเมืองที่มีพาสปอร์ตของประเทศฝั่งยุโรปยังงั้ยยังงัยก็ต้องขอจ้า

วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) นั้นคือใบเบิกทางให้เราสามารถไปเที่ยวประเทศในฝั่งยุโรปได้ทั้งหมด 26 ประเทศ และการพำนักอยู่ได้กี่วันนั้นอันนี้แล้วแต่ดุลยพินิจของสถานทูตเค้าหล่ะค่ะ

26 ประเทศ นั้นได้แก่ โปรตุเกส, สเปน, ออสเตรีย, เบลเยียม, สาธารณรัฐเช็ค, เยอรมนี, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, กรีซ, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, ฮังการี, อิตาลี, ลิกเตนสไตน์, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, มอลตา, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, สวีเดน, สโลวาเนีย, สโลวาเกีย, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์ และ สวิสเซอร์แลนด์

เราจะต้องไปทำวีซ่าที่สถานทูตไหนหล่ะ??? ง่ายๆ ไปประเทศไหนเยอะสุดก็ไปขอวีซ่าที่สถานทูตของประเทศนั้นเลย หรือถ้าไปแต่ละประเทศจำนวนวันพอๆ กันก็ขอวีซ่าที่ประเทศแรกที่เราขึ้นเครื่องบินไปลงก็ได้

ควรยื่นขอวีซ่าเมื่อไหร่??? เค้าให้ยื่นก่อนออกเดินทางได้ภายใน 90 วัน แนะนำว่ารีบยื่นจะดีที่สุด เพราะแต่ละประเทศการดำเนินการของแต่ละสถานทูตไม่เท่ากันนะจ๊ะ อย่างที่เรากำลังจะพูดถึง นั่นคือที่สถานทูตโปรตุเกสนั้นต้องรอเค้าดำเนินการเกือบเดือนเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากเราไปก่อนเนิ่นๆ หากครั้งแรกขอแล้วไม่ผ่าน หรือติดปัญหาก็ยังมีเวลาดำเนินการแก้ไขได้ทัน

วิธีการเดินทาง+วิธีขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) โปรตุเกส(Portugal)

หลังจากที่เกริ่นกันมาคร่าวๆ พอสังเขปคราวนี้เราก็มาเข้าเรื่องการไปขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) สำหรับเข้าประเทศโปรตุเกสกันบ้างดีกว่า เพราะครั้งนี้เราจะเดินทางไปเที่ยวประเทศโปรตุเกสประเทศเดียวโดยเดินทางไปทั้งหมด 16 วัน แฟนและน้องๆที่ทำงานแฟนไป conference 5 วัน (ส่วนเรานั้นขอวางแพลนเที่ยวคนเดียวก่อนนะ555) นอกนั้นก็จะไปเที่ยวจากเหนือลงใต้กันเลย

เตรียมเอกสารยื่นขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa)

1. แบบฟอร์มใบสมัครขอวีซ่า ต้องลงทะเบียน https://fr.tlscontact.com/th/bkk/page.php?pid=schengen_area&l=th

2. รูปถ่ายสี ต้องเห็น หู และคิ้วด้วย ห้ามใส่ ต่างหู สร้อยคอ และคอนแทคเสนส์ทุกประเภท และห้ามยิ้มเห็นฟัน แต่ยิ้มนิดๆแบบหุบปากได้ ฉากหลังสีขาว ขนาด กว้าง 3.5 ซม. สูง 4.5 ซม.จำนวน 1 ใบ ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน (ถ้าไม่ได้ถ่ายรูปมาสถานที่ทำวีซ่าเค้ามีตู้ถ่ายรูปบริการในราคา 200 บาท)

3. หนังสือเดินทาง(Passport) ที่ยังเหลืออายุใช้งาน อย่างน้อย 9 เดือนนับจากวันที่ยื่นขอวีซ่า พร้อมสำเนา หน้าที่มีรูปถ่าย และต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า

4. หนังสือเดินทางเล่มเก่า พร้อมสำเนา (ถ้ามี)

5. ใบจองตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ

6.ใบจองโรงแรม

7. ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุในการเดินทาง มูลค่าประกัน อย่างต่ำ 30,000 ยูโร เที่ยบเท่า 1,500,000 บาท

8. หลักฐานการเงินย้อนหลัง 3 เดือน รายการเดินบัญชี (Bank statement) ต้องไปขอที่ธนาคารเท่านั้น

9. หลักฐานการทำงานหรือการศึกษา

เจ้าของกิจการ ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัท ที่ระบุชื่อผู้ยื่นขอวีซ่า
ลูกจ้าง หรือ ข้าราชการ ใช้จดหมายรับรองการทำงาน ระบุตำแหน่ง เงินเดือน อายุการทำงาน และวันลา หยุดงาน พร้อมวัตถุประสงค์ในการเดินทาง
นักเรียน หรือนักศึกษา ใช้หนังสือ รับรอง สถานะการเป็น นักเรียนหรือ นักศึกษา

10. สลิปเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด (ถ้ามี)

11. ใบเปลี่ยนชื่อ นามสกุล (ถ้ามี)

12. แผนการเดินทาง หรือ เอกสารยืนยันการจองทัวร์ (ถ้ามี)

13. หนังสือหรือจดหมายเชิญจากบริษัท หรือหน่วยงานในโปรตุเกส (วีซ่าธุรกิจ)

14. เข้าไปจองเวลายื่นวีซ่า ในเว็บ https://fr.tlscontact.com/th/bkk/page.php?pid=schengen_area&l=th

วิธีการเดินทางไปยื่นเอกสารวีซ่า

หลังจากเตรียมเอกสารครบหมดแล้ว การยื่นวีซ่านั้นจะต้องไปยื่นที่ศูนย์รับยื่นวีซ่า TLScontact ประเทศไทย เท่านั้น เพราะสถานฑูตโปรตุเกสเค้าไม่รับยื่นโดยตรง ข้อดีคือเค้าไม่มีสัมภาษณ์อะไรเราเลยจ้า เดินเข้าไปยื่นเอกสารสบายๆชิวๆ ไม่ต้องเกรงเลย555 และที่นี่สามารถยื่นวีซ่าสำหรับไปประเทศโปรตุเกส และฝรั่งเศสด้วย

ศูนย์วีซ่าโปรตุเกสและฝรั่งเศส (TLScontact)

12/1 ชั้น 12 อาคารสาทรซิตี้ 175 ถนนสาทรใต้ สาทร กรุงเทพฯ 10120
พิกัด : 13.7217451,100.5319753,15
โทร : 02-838-6699 (จันทร์-ศุกร์ 08.00 – 16.30น.)
เว็บ: pt.tlscontact.com/th/BKK

เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์
เวลา : 08.30-12.30น. / 13.30-16.30น.
รับหนังสือเดินทางคืน: เวลา 08.00-16.30น.

– ภายในศูนย์มีบริการตู้ถ่ายรูป และถ่ายเอกสารด้วย –

เราเดินทางมาที่ศูนย์ด้วยการนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีช่องนนทรี (Chong Nonsi)

ลงรถไฟมา ตรงตามไปที่ทางออก 5 ได้เลย

เดินข้ามสะพานแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 200-300 เมตรได้

พอสุดทางแล้วจะมีบันไดอยู่ด้านซ้ายมองเห็นป้ายธนาคาร ICBC สีแดงๆ (ในรูปสายไฟฟ้าเยอะไปหน่อยเลยบังป้ายหมดเลย)

ป้าย ICBC – Bank of China อันนี้แหละ เดินตรงมาทางนี้ได้เลย

เดินผ่านมาอีกตึกนึงก็จะเจอกับตึกสาธรซิตี้ (Sathorn city Tower) แล้ว

เปิดประตูเข้ามาในตึกแล้วก็เดินมาที่ประชาสัมพันธ์ก่อนเลย เอาบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่เค้า แล้วเค้าจะให้บัตรแสกนผ่านเข้า-ออกประตูมาให้พร้อมคืนบัตรประชาชนให้เราด้วย

อันนี้คือบัตรแสกนเข้า-ออกประตูทางเข้าที่เจ้าหน้าที่ให้มา

จากนั้นก็ขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไปได้เลย

สุดบันไดเลื่อนแล้วให้เดินไปทางด้านขวา

บัตรที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่เมื่อกี้เอามาแสกนตรงนี้นั่นเอง

ขึ้นลิฟต์ไปกันเลยจ้า อย่าลืมดูว่าเป็นลิฟต์ที่จะไปจอดที่ชั้น 12 ด้วยนะ

ติ้ง!!! มาถึงชั้นแห่งความหวังของเราแล้วค่ะ

พอมาถึงด้านหน้าตรงนี้แล้วเราจะต้องฝากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ค ทุกอย่างไว้ที่เค้าเตอร์ตรงนี้นะแล้วถึงจะเดินเข้าไปในห้องได้ พออกมาแล้วก็ค่อยกลับมาเอาด้วย (อย่าลืมน้า)

***ควรไปให้ตรงเวลานะ เพราะถ้าเลยเวลาที่เราจองไว้ประมาณ 10 นาที เค้าก็จะให้เราทำการจองคิวใหม่เลย ไม่สามารถไปแทรกคิวทีหลังได้

แต่….ถ้าหากใครต้องการความสะดวกสะบายเพิ่มเติมเค้าก็มี Premium Seat ห๊ะ นี่ไม่ใช่ขึ้นเครื่องบิน!! แต่มีจริงๆ นะเออ คือไม่ต้องทำการจองใดๆ ไปก่อนแค่เตรียมเอกสารไป แล้วก็สามารถเข้าไปรอในห้องพิเศษมีขนมของว่างให้กิน ชากาแฟพร้อม นอกจากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่มาคอยจัดการช่วยเหลือ หากเอกสารขาดตกบกพร่องไปก็สามารถส่ง E-mail มาให้ทีหลังก็ได้ ถ้าต้องการความสะดวกสะบายเลือกแบบนี้เถอะ แต่ก็ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มด้วยนะ

พอเสร็จแล้วเราจะให้เค้าส่งเล่มพาสปอร์ตเราไปที่บ้านเลย หรือจะมารับเองก็ได้ ถ้ามารับเองเค้าก็มีเอกสารให้มารับ หรือจะฝากเพื่อนมารับแทนก็ได้แต่ต้องถ่ายสำเนาบัตรประชาชนของตัวเองและของคนที่มารับเป็นหลักฐานด้วย

เราไปยื่นเอกสารวันที่ 2 กันยายน วันที่ 20 ได้เมสเสจตอบกลับให้ไปรับพาสปอร์ตแล้ว ได้เร็วกว่าคนอื่นที่ยื่นด้วยกัน 1 อาทิตย์ อาจจะเพราะการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวรู้ผลเร็วกว่ายื่นขอวีซ่าBusiness ก็เป็นได้ โดยที่เมสเสจนี้ไม่ได้บอกเราหรอกนะว่าคุณยื่นผ่านหรือไม่ พูดง่ายๆ คือต้องเอาพาสปอร์ตมาเปิดดูเอง

วันที่เราไปเอาก็ไปที่ศูนย์เดิมเลย ไปที่ชั้น 12 เคาน์เตอร์รับพาสปอร์ตอยู่ข้างประตูทางเข้าไปยื่นเอกสารนั่นแหละ เอาหลักฐานยื่นให้เจ้าหน้าที่เค้าก็ให้ซองนี้เรามา

เปิดมันออกมาอย่างรวดเร็ว ฉีกคว๊ากๆๆๆ โล้ด ไม่ประนงปราณีตละ ลุ้นๆๆๆ เปิดกลับไปกลับมาหาไม่เจอ ใจก็เต้นแรงขึ้นๆ และแล้ว!!! และแล้วก็หาเจอ แม่จ๋า!!! หนูนึกว่าจะไม่ได้ไปแล้วแม่🤣🤣🤣🤣

Me Diary