Me Diary

มาแล้วจร้าๆ สำหรับ รีวิวสิงคโปร์ ที่ดองไว้นานเลย นั่นก็คือ รีวิว

✍🏻โปรแกรมเที่ยวสิงคโปร์  7วัน 6 คืน + ค่าใช้จ่าย11,865 บาท/คน💰

ทริปนี้เป็นการ เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง เดินทางตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2019 – 4 พฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา ทั้งหมดทั้งมวลก็ 7 วัน 6 คืนพอดี ไปมาตั้งหลายเดือนแล้ว แต่…เพิ่งเอามาลงนะ ดองกำลังอร่อยเลย มาๆๆๆ มาลองชิมกัน เอ้ย!! นี่แพลนเที่ยวนะไม่ใช่มะม่วง5555

วันไหนเดินทางไปไหนบ้าง ครั้งนี้เรามารีวิวเที่ยวสิงคโปร์แบบละเอียดยิบทำมาเป็นตารางให้ดูกันง่ายๆ และรายละเอียดอื่นๆ ให้ศึกษาแล้วไปเที่ยวได้เลย พร้อมโหลดไปใช้จริงได้ด้วย (เพื่อตอบแทนเพื่อนๆที่ติดตามก๊าบ❤️) สามารถคลิกที่นี่ ก็จะได้แบบรูปด้านล่างนี้ สามารถดาวน์โหลดที่ Google Sheet เอาไปแก้ไขเพิ่มเติมแพลนของตัวเองเข้าไปได้เลย จากนั้นเราก็จะได้เป็น Excel โปรแกรมท่องเที่ยวของตัวเองแล้ว เย้! ซึ่งเอาจริงๆ มันสามารถอะแดปใช้ได้กับทุกทริปเลยหล่ะ

–>แชร์เทคนิควางแผนเที่ยวสิงคโปร์ในงบแบบประหยัด

ทำยังไงให้เที่ยวแบบค่าใช้จ่ายต่ำๆ (งบจำกัด)

เที่ยวสิงคโปร์ ใช้เงินเท่าไหร่?? อันนี้ก็เป็นคำถามยอดฮิตที่มักมีเพื่อนๆ ถามเข้ามากันบ่อยๆ ใครๆก็อยากเที่ยว เพราะการเที่ยวมันเหมือนได้ชาร์ตพลังชีวิต ได้เห็นแต่รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ มันทำให้มีพลังในการกลับไปสู้ต่ออ่ะใช่มะ แต่…เที่ยวครั้งนึงก็ต้องใช้งบเยอะ ซึ่งเราคนนึงที่อยากเที่ยว แต่ขอใช้งบแค่นี้หล่ะ ไม่ต้องหรูหราอะไรมาก ขอให้ได้เที่ยว ขอให้ได้ออกมาเจอโลกกว้างกับเค้า แค่นี้ก็มีความสุขจะแย่แล้ว เราเลยชอบค้นหาว่าจะใช้งบอย่างไรให้คุ้มค่ากับการไปเที่ยวที่สุด

ครั้งนี้ที่ไป หากเปรียบเทียบกับครั้งก่อนละก็ครั้งนี้คือค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเดิม ทบทวนดูแล้วที่ถูกลงมาสิ่งสำคัญที่สุดคือ ตั๋วเครื่องบิน และ โรงแรม อยากจำกัดงบให้ถูกๆ ต้องให้ความสำคัญกับสองอย่างนี้

ตั๋วเครื่องบินไปสิงคโปร์

ซึ่งถ้าหากใครไม่ได้รีบร้อนมันก็สามารถรอตั๋วโปรราคาถูกได้ ของเราถ้าคิดราคาตั๋วเครื่องบินต่อคนก็ 3,500 บาท ซึ่งถูกกว่าครั้งก่อนเยอะเหมือนกัน

โรงแรม ที่พัก สิงคโปร์

ส่วนค่าโรงแรมครั้งนี้ก็พักถูกลงมาอีก เราพักที่ Fragrance Hotel – Emerald เป็นโรงแรมในย่านท้ายๆ ถนน Kallang ติดกับย่าน Kaylang ที่บางคนพูดถึงในกันในทางลบเรื่องที่มีสาวๆ ขายบริการอะไรพวกนี้ ซึ่งเราไม่เห็นเลยนะ(อยากเห็นอยู่เหมือนกัน5555) อาจจะเพราะว่าอยู่ท้ายถนนอย่างที่บอกไปอ่ะเนอะ สรุปว่าโรงแรมอ่ะดีเลย เป็นขนาดเล็กกระทัดรัด เดินไกลจากสถานีสักหน่อย แต่ใกล้สถานีรถบัสนะ ถ้าใครนั่งรถบัสเก่งๆ นี่สบายเลยหล่ะ หรือถ้าสามารถพัก hostel ได้นี่ก็สบาย ราคาถูกลงไปอี๊ก

ค่าเดินทางเที่ยวสิงคโปร์

อันที่จริงค่าเดินทางถ้าพูดถึงในสิงคโปร์มันก็ไม่เท่าไหร่นะ มันไม่เหมือนญี่ปุ่นที่ประเทศใหญ่กว่า แล้วหลายคนชอบเที่ยวแบบข้ามภูมิภาค อย่างลงโตเกียว แต่ไปเที่ยวโอซาก้าด้วยอะไรแบบนี้จะเปลืองค่าเดินทาง และเสียเวลา และโคตรเหนื่อยเลยด้วย (นอกเรื่องไปไกลถึงญี่ปุ่นละ55555) สรุปคือสิงคโปร์ถ้าอยากให้จำกัดงบการเดินทางเราแนะนำย่าน Bugis Chinatown เพราะอยู่ใจกลางเมืองเลย และที่เที่ยว และอาหารการกินก็เยอะมากๆๆๆ

ค่าอาหาร สิงคโปร์

ถ้าหากจะมาในสายประหยัด งบจำกัด แต่ความเด็ด ความอร่อยของเมนูอาหารต้องมีครบหล่ะก็ เราว่ามาเที่ยวสิงคโปร์ได้เลย บางคนอาจจะคิดว่าของแพงอาหารต้องแพง แต่ม่ายยยยเลย เราแค่ไปฟูดคอร์ด หรือที่เค้าเรียกว่า Hawker ซึ่งมันก็คืออาหารริมทางที่รัฐบาลสิงคโปร์ออกแบบให้แต่ละร้านในบริเวณนั้นมาขายอยู่ในสถานที่เดียวกัน เลยมีลักษณะเหมือนโรงอาหาร หรือฟูดคอร์ดที่เราเรียกนั่นเอง ซึ่งขนาดข้าวมันไก่ที่เนื้อนุ่มละลายในปากอย่างร้าน Tian Tian ก็อยู่หนึ่งในโรงอาหารที่ชื่อว่า Maxwell Centre และที่สำคัญราคาเริ่มต้นก็แค่ $3 หรือ ประมาณ 75 บาทไทยเอง คือราคาเกือบๆ เท่าร้านอาหารในกรุงเทพแล้วอ่า แล้วร้านราคาประมาณนี้ก็มีอยู่ทุกๆ Hawker ด้วยน้า

ดูรีวิวอาหารสิงคโปร์ –> ได้ที่นี่

ค่าเข้าสถานที่ สิงคโปร์

ส่วนเรื่องสุดท้าย แต่อาจจะไม่ท้ายสุด ถ้าคิดออกจะมาเขียนเพิ่มต่ออีก555 นั่นก็คือเรื่องค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยงแต่ละแห่ง ถ้าต้องการเที่ยวแบบประหยัดงบท่ีสิงคโปร์เราว่าก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ถึงแม้สถานที่เที่ยวบางที่อาจจะมีค่าเข้า แต่เดี๋ยวนี้ดีลต่างๆในเว็บก็มีให้เลือกซื้อในราคาที่ถูกกว่าไปซื้อที่เคาน์เตอร์ทางเข้าเสียอีก หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ต้องเสียค่าเข้า free เลยนี่ก็เยอะมาก (ไม่รู้มีเพื่อนๆ สนใจไหม??? หากมีคนสนใจอยากให้ทำ “รีวิวที่เที่ยวสิงคโปร์ free ค่าเข้า” ช่วยคอมเม้นต์หน้านี้ให้หน่อยนะคะ )

หากใครกำลังจะไปเที่ยวสิงคโปร์ หรือกำลังหาแรงบันดาลใจในการออกไปเที่ยวด้วยตัวเองในสิงคโปร์ละก้อ ติดตามเก๊าได้ที่ https://me-diary.com/category/singapore/