อุณหภูมิในวันนี้ยังอยู่ที่ 15 กว่าองศาค่อนข้างหนาวตอนเช้าและเย็น แต่ตอนกลางวันแดดแรงเสื้อตัวเดียวก็เอาอยู่

พวกเราออกจาก [รีวิวไต้หวัน] โรงแรม Finders Hotel Taipei นั่งรถไฟสายสีแดง จาก N.T.U. Hospital Station ไปลงสถานีรถไฟ Beitou Station

จากนั้นเปลี่ยนสายมาขึ้นชานชาลา Xinbeitou Station แค่ 1 ป้ายก็ถึง ทั้งหมด 35 NT

มาถึงแล้ว เป่ยโถว (Beitou) ดินแดนแห่งน้ำพุร้อน มีอะไรให้เที่ยวบ้าง?

1. Beitou Park (北投公園) สวนสาธารณะตรงข้ามสถานี
2. Taipei Public Library Beitou Branch (台北市立圖書館北投分館) หอสมุดที่ติดอันดับ 1 ใน 25 ห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลก
3. Beitou Hot Spring Museum (北投溫泉博物館) ปิดวันจันทร์ พิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเป่ยโถว 
4. Plum Garden (梅庭) ปิดวันจันทร์ เป็นวังฤดูร้อนของอดีตประธานาธิบดี เริ่มเปิดให้เยี่ยมชมตั้งแต่ปี 2010 ตัววังถูกตกแต่งในสไตส์ของญี่ปุ่น เค้าว่าสวยมาก
5. Thermal Valley (地熱谷) ปิดวันจันทร์ ต้นกำเนิดน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Beitou) น้ำแร่ที่มีสีเขียวมรกต Green sulfur ซึ่งมีเพียง 2 แห่งในโลก คือที่นี่ และที่ Akita ในญี่ปุ่น
6. Millennium Hot Springs สถานที่อาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน แบบสามารถใส่ชุดว่ายน้ำได้ ไม่ต้องเขินอายแล้ว

***ถึงแม้จะเรียกแถวนี้ว่า เป่ยโถว (Beitou) แต่ต้องขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี ซินเป่ยโถว (Xinbeitou Station) นะ***

เดินออกจากสถานีมาอากาศเย็นๆ ก็ปะทะกับใบหน้า ให้ความรู้สึกเย็นสบายดีจัง พวกเราเดินข้ามถนนมาทางด้านขวา ก็เจอออนเซ็นแบบแช่มือคลายหนาวเป็นอย่างแรกเลย ดูเหมือนไม่ร้อนเท่าไหร่ แต่พอเอามือจุ่มไปต้องมีสะดุ้งเด้งมือกลับกันเลยทีเดียว555

มีพิพิธภัณฑ์อยู่ด้านข้างที่แช่มือนี้ด้วย กะจับกลับมาเก็บทีหลังแต่ก็ลืมไปซะสนิทเลย

เดินข้ามถนนมาอีกฝั่งก็จะพบกับ Beitou Park (北投公園) สวนสาธารณะมีลานน้ำพุกว้างๆ

พวกเราเดินตรงเข้ามาในสวนสาธารณะเป่ยโถวแห่งนี้ด้านซ้ายเป็นบึงดอกบัวที่กำลังแย้มกลีบสีชมพูสีขาวสลับกันไปมา

ด้านขวาเป็นหอสมุดสาธารณะเป่ยโถว Taipei Public Library Beitou Branch (台北市立圖書館北投分館) อาคารไม้ขนาดใหญ่ดีไซน์สวยสะดุดตา และเป็นอาคารแห่งแรกที่ได้ใบรับรองให้เป็น
Green Building(อาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม) ในไต้หวัน

เดินขึ้นไปหอสมุดกัน หอสมุดแห่งนี้จะเปิดให้ผู้คนได้เข้าไปนั่งเล่น อ่านหนังสือ พักผ่อนหย่อนใจโดยไม่เก็บค่าบริการด้วย ก่อนเข้าเช็คกฎของการเข้าใช้งานกันก่อนซะหน่อย จะได้ไม่ไปรบกวนคนอื่นๆด้วยเนอะ

ข้างในมีหลายมุมให้อ่านหนังสือ จัดตกแต่งได้สวยงามน่านั่งอ่านหนังสือจริงๆ

บันไดทางเดินขึ้นลงเรียบๆ แต่ข้าเจ้าชอบจัง ข้างในมีห้องน้ำให้เข้าด้วย

ชั้นบนหอสมุดมีระเบียงทางเดินแนวยาว มองออกไปเห็นความเขียวขจีทั่วทุกหนแห่ง สบายตาดีเหลือเกิน

มานั่งอ่านหนังสือตรงนี้วิวดีจริงๆ น้า

คุณครูพาลูกเจี๊ยบตัวน้อยๆ ออกมาเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตกัน น่าร๊ากกก

จากนี้ต่อไปที่นี่เราก็จะเห็นน้ำสีฟ้าๆ และต้นไม้สีเขียวๆทุกหนแห่ง ให้เราได้ชาร์ตพลังกันอย่างเต็มที่เลย

ที่นี่มีเส้นทางให้เดินเที่ยวหลากหลายเส้นทาง แต่สุดท้ายก็จะมาบรรจบกัน

ซากุระในต้นเดือนมีนาคมแบบนี้ที่นี่ก็ยังมีให้ชมกันด้วย

พอเดินข้ามสะพานไม้มาก็จะเจอกับทางเข้า Thermal Valley (地熱谷)

ป้ายไม้บอกทางชวนให้อยากเดินขึ้นไปถึงเร็วๆ

ขุ่นแม่ดูจะตื่นเต้นน่าดู อีกนิดเดียวก็จะถึงบ่อน้ำแร่แล้ว

แต่………บ่อปิดทุกวันจันทร์ ง๊าาา อดเข้าไปดู😭 ข้าเจ้าเดินไปเกาะรั้วที่ปิดล็อคด้วยกุญแจโซ่ด้วยความเสียใจ แงแง รีบเปิดดูว่ามีอะไรปิดอีกบ้าง

และแล้วเราก็เริ่มเดินลงจากเขามาหาเป้าหมายใหม่ ที่ไม่ปิดวันจันทร์ 555 และนี่ไง Millennium Hot Springs เค้าไม่ปิดจ้า สามารถเข้าไปแช่บ่อน้ำร้อนแบบไม่ต้องอายเพราะใส่ชุดว่ายน้ำ(แต่ต้องชุดว่ายน้ำเท่านั้น กางเกงขาสั้นเค้าไม่ให้น้า)ได้ด้วย ถ้าไม่ได้เตรียมมาที่นี่เค้าก็มีมีชุดว่ายน้ำขาย ราคาประมาณ 350 – 500

อยากลงแช่น้ำคลายหนาวแล้วก็ซื้อตั๋วที่ตู้อัตโนมัติข้างหน้าได้เลย คนละ 40 NT เด็ก 20 NT

จากนั้นก็เดินลงมาที่ Beitou Hot Spring Museum พิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเป่ยโถว ที่นี่จะมีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นด้วย แต่ก็ “ปิดวันจันทร์“ เช่นกัน

นอกจากที่เที่ยวหลายแห่งปิดวันจันทร์แล้ว ร้านอาหารหลายร้านก็ปิดด้วยเช่นกัน แต่……พวกเราบังเอิญมาเจอร้านอร่อยแห่งนี้!!! ร้านอาหารตรงข้าม Mos Burgers 🍔  ใกล้ๆ สถานี Xinbeitou Station นี่แหละ

ทั้งหมด 180 NT ราคาไม่แพง และอร่อย ให้เลย⭐️⭐️⭐️⭐️ 4 ดาว รสชาติกลมกล่อม หมูสับโปะข้าวอร่อยมาก คือพอๆกับร้านที่คนต่อคิวเลย

ยิ่งลูกชิ้นอร่อยเจ้มจ้นจนขุ่นแม่ขอสั่งเพิ่มเลยจ้า ลูกละ 10 NT

จากนั้นก็เดินเล่นกัยมาถึงตลาดเป่ยโถ (Beitou Market)

ที่ตลาดแห่งนี้ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ พวกเราเดินกันเร็วๆ แล้วไปขึ้นรถไฟไปตั้นสุ่ย (Tamsui) กันดีกว่า

ขึ้นรถไฟจากสถานี Beitou ไปสุดสาย ถึงสถานีตั้นสุ่ย (Tamsui Station) 24 NT

หน้าทางออกสถานีตั้นสุ่ย มีร้านชาไข่มุกอู่ฉือหลาน (50嵐) ร้านนี้ชอบที่แก้วใหญ่เบิ้ม รสชาติโอเคใช้ได้เลยด้วย เพราะฉะนั้นอย่าช้า รออะไร เดินตรงเข้าไปชี้เลย555

Big Bubble Milk Tea 50 NT ให้ ⭐️⭐️⭐️⭐️ 4 ดาว ความอร่อยกลมกล่อม แก้วใหญ่ มุกเยอะ เลือกมุกเล็ก มุกใหญ่ได้อีก แก้วเดียวอิ่ม กินแทนข้าวได้เลยอ่ะ555

บรรยากาศหน้าสถานีตั้นสุ่ยได้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายทะเลหน่อยๆ แล้ว พวกเราเริ่มต้นกันที่ตึกด้านขวา นั่นคือห้างที่ร้านอาหารเพียบ

มี Uniqlo ด้วย แต่ราคาก็พอๆกับบ้านเรา นอกนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านอาหาร

ชั้นแรกเป็นเสื้อผ้า

พวกเรามาที่ชั้น 5 กันเลย มาชิมร้านซูชิรางร้านนี้กัน!! จานละ 40 NT

เมนูอาหารของร้าน วิธีการสั่งจะมีจอ LED ให้กดสั่งแต่ละโต๊ะเลย แต่.. ยังไม่มีเป็นภาษาอังกฤษน้า ต้องใช้ความสามารถในการเดาด้วย555

จานอื่นๆ 40 NT แต่จานนี้ 80 NT รสชาติอาหารกลางๆ ให้⭐️⭐️⭐️ 3 ดาว

จากนั้นก็ข้ามถนนกลับมาเมื่อกี้กินจริง ตอนนี้พร้อมตะลุยกินเล่นแล้ว 555

เดินมาทาง Starbucks

เข้ามาทางถนนคนเดิน Tamsui Old Street ( 淡水老街)  แล้ว ขนาดว่าวันนี้เป็นวันจันทร์ถนนสายนี้ก็ยังเนืองแน่นไปด้วยผู้คน เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ที่ใครๆก็ต่างอยากเดินทางมาเที่ยวกัน

เริ่มจากร้านแรกๆ ที่ผ่านเข้าไป ร้านน้ำถั่วต่างๆ ที่ดังสุดที่สุดก็เห็นจะเป็นนำ้นมอัลมอนด์ ที่ทั้งมีประโยชน์และหอมหวาน บางคนก็ถูกใจซื้อกันไป บางคนก็ไม่ค่อยจะชอบกลิ่นมันซักเท่าไหร่

ที่ดังสุดๆ ก็ต้องร้านปลาหมึกยักทอด มีให้เลือกหลายร้านและเกือบทุกร้านก็มีให้ลิ้มลองก่อนด้วย ร้านไหนถูกปากก็ค่อยซื้อหากัน

นอกจากนั้นก็ยังมีของทอดอีกเพียบ เลือกไปเลือกมาสุดท้ายก็ ปลาหมึกทอด เหมียนเดิม555

ขนมโรตี (Scallion pancake) ร้านนี้ให้ ⭐️⭐️ 2 ดาว เพราะตอนซื้อเค้าทำไว้ก่อนแล้วมันเลยเย็นๆ มันๆ ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แต่มีร้านที่ก๋งก๋วน (Gongguan Night Market) ที่อร่อยมากๆ

ร้านนี้ร้าน ถั่วมั้ยยย???

ขายถั่วหลากหลายชนิด ทำสดๆ ใหม่ๆ หอมอบอวลอยู่หน้าร้าน

มาต่อที่ร้านเต้าหู้เหม็น เห็นคนซื้อกินหน้าตาอร่อยเหาะ พวกเราเลยอยากลองบ้าง ราคา 40 NT

อ้ามเข้าไปคำนึง หืมม เหม็นสมชื่อ555  ให้ ⭐️⭐️ 2 ดาว ม่ายชอบกลิ่นเลยอ่า

หลังจากเต้าหู้เหม็นรีบหาน้ำดับกลิ่นปากด่วน มาเจอร้านชานมไข่มุกร้านนี้

ราคา 60 NT สูงกว่าร้านอื่นๆ แต่ให้ ⭐️⭐️⭐️⭐️ 4.5 เก๊าชอบ มันอร่อย ไข่มุกหยุ่นๆ เคี้ยวง่าย ไม่หนึบจนเกินไป

นักชิมของเราบอก “ผ่านค้าบบ”

เดินมาจนสุดถนนก็เลี้ยวมาทางซ้าย หันไปเจอฝั่งตรงข้ามมี Tiger Sugar ชาไข่มุกร้านดังอีกแล้ว

ราคาแต่ละเมนูก็ไม่แพงเลย ลองกันอีกแว้วว

Brown Sugar Boba Milk with Cream Mousse 55NT เมนูแรกเลย เมนูนี้ให้ ⭐️⭐️⭐️⭐️ 4.5 อร่อยมีมุกเล็ก+ใหญ่ ผสมกันมาให้เลย หอม หวาน เข้มข้น ลงตัว แก้วขนาดกลางๆ

Green Tea Bubble 40 NT เมนูนี้ให้ ⭐️⭐️⭐️⭐️ 4.5 ดาว เหมือนกัน มุกขนาดเล็ก ตัวชาเขียวมีความฝาด คือช่วยตัดกับอาหารเลี่ยนๆ มันๆ ที่เพิ่งกินเข้าไปได้ดีทีเดียวเลย

ร้านนี้นักชิมของเราก็บอกว่า “ผ่านอีกแล้วค้าบ” นักชิมของเราชิมเยอะมากทำไมไม่อ้วนเลยห๊ะ

เดินมาเจอทางแยกเล็กๆ ขุ่นแม่เห็น “เสี่ยว หลง เป่า” รีบตรงดิ่งเข้าไปทันได ยกนิ้วให้แม่ค้า เอาที่นึง

เสี่ยว หลง เป่า นึ่งร้อนๆ ราคาถูกกว่า ติ่น ไท่ ฟง ครึ่งนึงแบบนี้ มันต้องลองว่าเป็นไง

8 ลูก 70 NT ถูกจัง ให้ ⭐️⭐️⭐️⭐️ 4 ดาว แม้แป้งจะหนากว่า ติ่น ไท่ ฟง หน่อย แต่รสชาติความอร่อยใช้ได้เลย

ขุ่นแม่หันแว๊บมาเจอร้านเค้กไต้หวัน รีบเดินมาสั่งอย่างเร็วไว ปล.เรื่องเค้กไต้หวันยังไม่จบ ยังมีภาคต่อไปอี๊ก

เดินต่อไป เจอร้านชาไข่มุก Coco อีกแล้ว ร้านนี้บ้านเราก็มีแต่อยากลองชิมที่นี่ดูบ้าง

เมนูร้านนี้มีภาษาไทยตรงเคาน์เตอร์ให้ดูด้วย

เมนูนี้ Roasted Perl with Milk Tea 45 NT  มุกใหญ่และเยอะมาก แก้วก็ใหญ่เบิ้ม เหมือนจะใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้นะ ให้ ⭐️⭐️ 2.5 ดาว แม้ว่าจะถูกและแก้วใหญ่ แต่พอชิมมาหลายร้านแล้ว ร้านนี้เลยกลายเป็นธรรมดาไปเลย มุก เฉยๆมาก

เดินเลยตรงนี้ไปนิดเดียวด้านซ้ายมือเป็นร้านเค้กไต้หวันอันเลื่องชื่อแล้ว ภาคเค้กไต้หวันของขุ่นแม่มาแว้ว

ตรงนี้มีอยู่ 2 ร้าน แต่ร้านดังคือร้านด้านขวามือ ขุ่นแม่บอกว่าร้านนี้คนต่อเยอะ ต้องไปซื้อมาเทียบกันว่าร้านไหนอร่อยกว่า เดี๋ยวๆๆ แม่เป็นรีวิวเวอร์ตั้งแต่มะไร555 ที่จริงคือชอบกินขนมแบบนี้อ่ะสิ รู้หรอกก

คนต่อคิวเต็มเลย สุดท้ายก็ต้องมาต่อด้วย

หน้าลายๆ สีเข้มๆ คือแบบชีส 100 NT หน้าเรียบๆคือแบบธรรมดา 80 NT

พนักงานเป็นผู้ชายทั้งหมด เพราะต้องยกเค้กกลับด้านเพื่อลอกกระดาษออกด้วย ใช้กำลังหน้าดูเลย

น่าทานมว๊ากค่ะ

ขุ่นแม่จัดไป 3 กล่องค่ะ ชีส2 ธรรมดา 1 แบกกันไปสมใจขุ่นแม่เค้าเลย ถ้าเปรียบเทียบกับร้านก่อนหน้ารสชาติไม่ต่างอะไรกันเท่าไหร่ ถ้าไม่มีเวลาต่อคิวก็ไปซื้ออีกร้านนึงก็ได้

จากนั้นก็เดินข้ามถนนมากินลูกชิ้นปลายัดไส้หมูที่ร้าน 可口魚丸 (Kěkǒu yú wán, เข่อโข่อู๋ว์หวาน) ร้านต้นตำหรับ original

ถ้วยละ 35 NT ⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ 4.5 ดาวเลย เกี๊ยวรสชาติเข้มข้น ลูกชิ้นสอดไส้หมูสับก็อร่อย แม้แต่น้ำซุปยังหอมมากๆ ขอหักนิดนึงตรงความสะอาด ถังใส่ลูกชิ้นด้านล่างวางติดพื้นไปหน่อย

Red Castel ป้อมปราการอายุกว่า 100 ปี ซึ่งตอนนี้เป็นร้านอาหารบรรยากาศดีๆ มองเห็นวิวทะเล

ตึกมีความผสมผสานสไตล์ยุโรปและจีน

ต้นเดือนมีนาคมแบบนี้ก็ยังมีซากุระให้ชมกันที่นี่ด้วย

มีซากุระที่ไหน ที่นั่นก็ทวีคูณความสวยงามเพิ่มขึ้นไปอีก บรรยากาศน่านั่งจิบกาแฟมากๆ

จากนั้นก็เดินมายังริมทะเล เพื่อจะข้ามฝั่งไปเกาะปาหลี (Bali) แต่เห็นร้านแดงๆ นั่นไหม ร้านไอติมถั่วตัดของถูกใจนักท่องเที่ยวไทยท่ีจิ่วเฟิ่นไง

ที่นี่ก็มีต้องลองซะหน่อย ไอติมรสเชอร์เบทรสถั่วตัดตกแต่งด้วยผักชีห่อด้วยแผ่นโรตีสายไหม อันละ 40 NT

ให้ ⭐️⭐️⭐️⭐️ 4ดาว ดวยความแปลกใหม่เปรี้ยวหวานชื่นใจ

ร้านข้างๆกัน เป็นร้าน soft icecream ให้ ⭐️⭐️ 2.5 ดาว รสชาติธรรมดาไม่เข้มข้น

ขอพูดถึงของฝากนิดนึง อันนี้สำหรับคอกาแฟ เป็น postcard ที่ข้างในมีกาแฟใส่เข้าไปด้วย “ส่งให้คนที่คุณรักพร้อมกาแฟดิ๊บ 1 แก้ว” ว้าว ไอเดียดีอ่ะ

จากนั้นเราก็มาซื้อตั๋วขึ้นเรือไปเกาะปาหลี(Bali) กัน

[รีวิวไต้หวัน] : เกาะปาหลี(Bali) เกาะสุขสรรค์เมืองตั้นสุ่ย

กลับจากเกาะปาหลี ต้องรีบมาต่อเรือไป Fisherman’s Warf

เพราะเรือเที่ยวสุดท้ายมีถึงแค่ 6 โมงเย็น

ค่าตั๋วขาเดียว 60 NT

เรือลำเล็กกว่าไปเกาะบาหลี ช่วงนั้นน้ำแรงมาก ข้าเจ้ากะขุ่นพ่อออกมากะจะชมวิวซะหน่อย กลายเป็นวิ่งหาที่เกาะแทบไม่ทัน จับกันไปจับกันมาเกือบปลิวไปกับสายน้ำ555

มาถึงแล้ว สะพานแห่งคู่รัก (Tamsui Lover’s Bridge, 情人橋) รอบกายปกคลุมด้วยสายหมอก

เป็นสะพานสำหรับเดินเท้าทอดยาวเหนือน้ำทะเลริมปากอ่าว แสงไฟเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ สวยงาม โรแมนติกมากมาย

พวกเราเดินไปยังไม่ถึงอีกฝั่งของสะพาน ฝนก็เริ่มตกปลอยๆ ความตั้งใจว่าจะเดินไป ท่าเทียบเรือชาวประมงตั้นสุย (Tamsui Fisherman’s Wharf) ก็เลยอดจนได้

ทุกคนวิ่งงง ฝนตกแล้ว ร่มก็ไม่มี ความโรแมนติกที่มีเมื่อกี้หายไปทันควัน555

ครั้งนี้ขอแค่ภาพหัวใจกับสะพานเป็นฉากหลังก็แล้วกัน

เดินเข้ามาในตึกมีของฝากขายเล็กน้อย

จากนั้นก็มารอรถบัสกลับไปยังสถานีตั้นสุ่ย รถบัสจะมาทุก ๆ 15 นาที ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที ราคา 15 NT แต่แถวนั้นก็มี Taxi ด้วย เค้าบอกว่า คนละ 50 NT เดินทางแค่ 15 นาทีเอง

จากนั้นก็กลับมา Taipei Main 40 NT

---

★★★Review★★★

ถ้ามีเวลา 2 วัน แล้วอยากเที่ยวครบๆ เดินชิวๆ ไม่รีบร้อน ให้มาเป่ยโถว(Beitou) 1 วัน ตั้นสุ่ย(Tamsui) 1 วัน ไปเล้ยเพราะแต่ละที่ที่เที่ยวเยอะมาก แต่ถ้าไม่มีเวลาก็ตื่นเช้าๆ มาแวะเที่ยวที่เป่ยโถว(Beitou) ก่อนแล้วช่วงบ่ายค่อยไปตั้นสุ่ย(Tamsui) เดินดูของกินที่ Old Street  ข้ามเรือไปเกาะปาหลี่ (Bali)ปั่นจักรยานเล่น แล้วไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่สะพานคู่รัก(Fisherman’s wharf)

4-5/3/2019

---

🙂กดไลค์ & แชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ🙂

★ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่ FACEBOOK : Me Diary ★