:+:+:+:Day6:+:+:+:
ดูแผนการท่องเที่ยวที่นี่ –> Day6 : สวนอี้หยวน >> เฉินหวงเมี่ยว >> พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้
ก่อนออกเดินทางวันนี้พวกเราดู Google Map แล้วตัดสินใจกันว่าจะเดินทางจากที่พักไปสวนอี้หยวนกันเลย เพระามันไม่ได้ไกลนัก
ประมาณ 20 นาที ก็เดินมาถึงทางแยกนี้ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ตึกใหญ่ ๆ และดูจะโบราณมากแล้ว
แต่ละตกนั้นบ่งบอกถึงสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่
เราเดินข้ามแยกไปก็เริ่มเจอร้านค้าขายเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ชวนเราไปซื้อกันใหญ่
พวกเราก็เดินเข้าไปแวะตามร้านรวงไปเรื่อย ๆ
เจอร้านขายของฝากร้านนี้ที่มีขวดเก็บน้ำร้อนลายน่ารัก คิกขุหลายรายเลย
จากนั้นก็เดินดูป้ายมาเรื่อย ๆ จนเจอแลนด์มาร์กของที่นี่เข้าแล้ว ซึ่งก็อยู่ด้านข้างของสวนอี้หยวนนี่เอง จุดนี้เลยเป็นจุดที่ผู้คนมารวมตัวกัน บ้างชมปลา ชมวิว บ้างก็ถ่ายรูปกันไป คนเยอะน่าดู
เราเดินมาหลบมุมคุยกันก่อนเพื่อตัดสินใจว่าจะเข้าไปในสวนอี้หยวนนี้หรือไม่
มาถึงหน้าสวนแบบนี้แล้วทุกคนก็คงไม่อยากพลาดการเข้าชมนั่นแหละเนอะ ตกลงพร้อมใจกันส่งเงินมาให้เราไปซื้อตั๋วมาซะ
เราเดินเข้าไปต่อแถว แล้วสายตาก็มองผ่านป้ายอย่างรวดเร็ว ค่าเข้า ปกติ 30 หยวน แต่ถ้าผู้ใหญ่อายุ 60+ หรือนักเรียนลดครึ่งราคา คราวนี้ 2 คน ขุ่นพ่อขุ่นแม่ได้ลดราคาแล้ว เรารีบเรี่ยรายพาสปอร์ตของทั้งสอง
หลังจากเดินเข้ามาในสวนแล้ว หินก้อนใหญ่ที่แกะสลักก้อนนี้ก็เด่นตระหง่าน รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเราอยู่
ในสวนแห่งนี้เงียบสงบช่างแตกต่างจากด้านนอกที่ผู้คนเริ่มพลุกพล่านในช่วงสายกันแล้ว
นอกจากนั้นยังมีต้นบอนไซดอกบ๊วยกำลังเบ่งบานผลิดอกเล็ก ๆ มาให้เราชม ช่างเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าชมยิ่งนัก
ก้อนหินที่อยู่ตรงกลางที่ตอนแรกเราไม่ได้สนใจสังเกตุเลยว่านั่นหล่ะ หินที่เค้าพูดถึงกันว่ามีรูถึง 72 แห่ง ที่น้ำสามารถไหลผ่าน และควันสามารถลอยออกมาได้
สิ่งที่เราสนใจมีเพียงแค่คลองเล็ก ๆ นี่
จากนั้นขุ่นพ่อก็เรียกเราเข้ามาดูกำแพงของที่นี่ แล้วก็ตั้งคำถามว่า “ทำไมต้องเป็นค้างคาว” ซึ่งไร้วี่แววสำหรับคำตอบจากเรา 555 ขุ่นพอเลยหาตัวช่วยอื่น ไปค้นข้อมูลทางเน็ตได้มาว่า ค้างคาวนั้นคนจีนถือว่าเป็นสัตว์ที่นำโชคลาภมาให้
เราเข้ามาดูห้อง ๆ นึงที่มีโคมไฟหลายชิ้นแขวนอยู่
ตอนนี้เป็นช่วงที่บอนไซกำลังออกดอกทั่วทั้งบริเวณสวน ทำให้รู้สึกเบิกบานดีจริง ๆ
ดอกเล็ก ๆ ของเจ้า ช่างดูน่าทะนุถนอมยิ่งนัก
และตรงนี้ที่เกือบจะไม่เห็นเช่นกันนั่นคือ กำแพงมังกรผงาดฟ้า
สวนที่แต่งแต้มไปด้วยดอกไม้ และต้นหลิวที่ปลิวไหว เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนจีนที่มีฐานะมักจะสร้างมันขึ้นมาเพื่อเชยชม
ต้นบอนไซต้นนี้มีดอกที่เป็นสีขาวและสีชมพูในต้นเดียวกัน
ประตูทรงกลมสไตล์โบราณ
นี่คืออะไรเราก็ไม่แน่ใจ เดินไปเจอ แล้วก็ถ่ายมา
เดินเล่นในสวนจนครบรอบเราก็เดินหาทางออกเพื่อมาชมบริเวณรอบ ๆ กันบ้าง
ร้านนี้เป็นเซี่ยวหลงเป่าซุปปูมีคนต่อคิวเยอะเลย
เราเดินตามป้ายเพื่อจะไปร้านเซี่ยวหลงเป่าหนานเสียงที่เค้าฮิตกัน แต่ทำไมดูเหมือนป้ายจะบอกทาง งงๆ สักหน่อย
แต่แล้วก็เจอจนได้ คิวยาวมาก เราเลยบอกทุกคนให้เปลี่ยนความสนใจ ว่าวันต่อไปเราจะไปกินเสี่ยวหลงเป่ากันที่เมืองเสียงหนานต้นตำหรับกันเลย
ทุกคนเลยเดินลึกเข้าไปในตลาด และแล้วก็เจอตึก ๆ หนึ่งที่ล้อมรอบไปด้วยของขาย ด้านในมีที่นั่งให้รับประทานอาหาร
พวกเราเดินไปเลือกอาหารที่สามารถหยิบใส่ถามมาได้เลยแล้วค่อยจ่ายตอนเดินออกมาที่เคาน์เตอร์ อร่อยพอใช้ได้ทุกอย่าง ยกเว้นบัวลอยใส้งาดำที่น้ำของร้านที่นี่เป็นน้ำร้อนใส่มาเพื่อไม่ให้บัวลอยติดกันเท่านั้นเอง แต่ราคาก็สูงกว่าปกติ ก็คงเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวน่านแหละ
รับประทานกันเสร็จแล้วก็เดินออกมาทางด้านหลังเจอคุณเต่าหัวมังกร
แล้วก็ถอยหลังออกมาถ่ายรูปตึกที่เพิ่งเข้าไป
จากนั้นเราก็เดินไปที่สถานี Yuyuan Garden Station เพื่อเข้าชมพิพิธพัณฑ์เซี่ยงไฮ้กัน
เราขึ้นรถไฟสายสีม่วง ที่ไปทาง East Nanjing Road
เดินทางไป 1 สถานี ก็ออกมาเปลี่ยนสายรถไฟไปทางสายสีเขียว Line 2
มารอชานชาลาที่ไปทาง People’s Square และเราจะลงที่สถานีนี้
เพียง 1 สถานีก็ถึง People’s Square แล้ว
พวกเราเดินไปทางป้ายที่เขียนว่า 6-12
แล้วไปทางป้าย Exit 11 History Museum
เดินไปเจอป้ายบอกเวลารถไฟขบวนแรก และสุดท้าย
มีขุ่นป้ามาขายมังคุดกันในทางเดินระหว่างสถานีด้วย ใครไคร่ค้าค้าจริง ๆ ที่นี่
ระหว่างทางเดินใกล้ ๆ พิพิธพัณฑ์พวกเราเจอสวนสาธารณะที่ต้นแมกโนเลียกำลังบ้านสะพรั่ง ซึ่งตอนที่อยู่หางโจวก็มีบ้าง แต่ไม่เยอะเท่าที่นี่ สวยจนทำให้เรารู้สึกเริ่มคลั่งไคล้ซะแล้ว
ไม่ใช้แค่ความสวยงาม แต่ยังมีกลิ่นที่หอมหวานน่าเชยชม
เดินต่อมาอีหน่อยก็ถึงทางเข้าพิพิธภัณฑ์แล้ว ตรงที่เป็นตึกรูปกลม ๆ นั่นแหละ
เราเดินผ่านจุดตรวจกระเป๋า แล้วเข้ามาข้างในตึก ด้านหน้าจอดิจิตอลบอกรายละเอียดในแต่ละชั้น
แล้วก็มีป้ายบอกเพิ่มเติมด้วย
เราเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นบนสุดกันก่อน
ชั้นนี้เกี่ยวกับเงินตราในสมัยก่อน
ชั้นต่อมาเป็นโซนแสดงวัตถุต่าง ๆ จากแต่ละราชวงศ์
ชาวจีนมีชนเผ่าเยอะมาก และชุดที่ใส่ก็มีความแตกต่างกัน
เรือพายในสมัยก่อน สวยงามสมเป็นชนเผ่ายิ่งนัก
วัตถุโบราณต่าง ๆ ที่มาแสดงโชว์ ซึ่งที่นี่เราไม่ค่อยได้ให้ความสนใจมากนัก
มีคนมาสเก็ตรูปด้วย
เวลา 5:00 น. เป็นเวลาปิดทำการของที่นี่แล้ว พวกเราจึงเดินออกมาเพื่อจะไปลองชิมเสี่ยวหลงเป่าที่ขึ้นชื่อลือชากัน
มาถึงแล้วร้านดังที่เคยเห็นคนรีวิว เดินหาไม่ยาก เราว่าอร่อยใช้ได้เลย อร่อยสุดเท่าที่เคยทานที่จีนมา แต่ไม่ถึงกับรู้สึกว่าสุดยอดขนาดนั้นนะ
ยังไม่สุดกันเท่าไหร่ เลยเดินข้ามไปฝั่งตรงข้าม เสี่ยวหลงเป่าร้านนี้ก็เจ้าดังเช่นกันนี่นะ
ลองซะหน่อย เป็นเสี่ยวหลงเป่าทอด แต่เราว่าร้านเมื่อกี้อร่อยกว่านะ
อาหารคาวจบ บ้านนี้ต้องมีอาหารหวาน หมดค่าขนมร้านนี้มากกว่าค่าอาหารที่ทานมากันเมื่อกี้ซะอีกนะพวกเรา แต่ร้านขนมร้านนี้อร่อยจริง ๆ ทุกคนติดใจเลย
หลังจากนั้นก็เดินย่อยอาหารกันกลับมาทาง The Bund ซึ่งคนเยอะมาก เราแวะดูร้านของฝากตรงนี้หน่อย แต่ก็ยังไม่ได้อะไรกันกลับมา
ร้านนี้ถ้ามีเด็ก ๆ คงได้เข้าไปเดินแล้ว แต่เดินจนเมื่อยกันมากสุด ๆ แล้ว และเกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อยกับขุ่นพ่อพวกเราเลยเดินกลับห้องกันดีกว่า
——————————————————–
🙂กดไลค์ & แชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ🙂
★ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่ FACEBOOK : Me Diary ★
ค่าใช้จ่ายต่อคน (14/3/18)
💰ค่ารถไฟไป 5 = 5 CNY
🍛ค่าอาหาร 150 CNY
💰ค่าเข้าสวนอี้หยวน 30 CNY
🏨 Airbnb the bund 1240 baht
————————————————————————————————————
รีวิวท่องเที่ยวจีน
[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 2 : ชมซากุระ >> ไร่ชาหลงจิ่ง >> เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda)
[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 3 : เมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง (宋城, Song Dynasty Town)
[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 4 : อู่เจิ้น (Wuzhen Water Town) เวนิส เมืองโบราณจีน
[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 5 : ล่องเรือซีหู >> กลับเซี่ยงไฮ้
[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 6 :สวนอี้หยวน>>เฉินหวังเมี่ยว>>พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้
[รีวิวเที่ยวจีน2018] : DAY 7 : เมืองโบราณหนานเสียง >> เก็บสตรอว์เบอร์รี่
[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 8 : ซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ >>Metro City >> The Bund
Leave a Reply