[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 4 : อู่เจิ้น (Wuzhen Water Town) เวนิส เมืองโบราณจีน

:+:+:+:Day4:+:+:+:

ดูแผนท่องเที่ยวที่นี่ –> Day4 : อู่เจิ้น (Wuzhen Water Town)

เช้าวันนี้ไกด์ขาประจำ Google map ก็พาเราเดินมาที่สถานีรถไฟ Fengqi Road Station (凤起路) แล้วจากนั้นก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟ คนละ 3 หยวน เพื่อไป Coach Center Station ได้บัตรมาก็ทาบบัตรเข้ารถไฟสาย 1 สีแดง ได้เลย

แล้วพวกเราก็เดินลงมาข้างล่าง รอรถไฟด้านที่เขียนว่า to Linping

ภายในรถไฟของที่นี่มีบอกจุดที่เราอยู่ และประกาศด้วยเสียงภาษาอังกฤษ แบบนี้ก็เดินทางได้สะดวกเลยหล่ะ

พอถึงสถานี Coach Center Station เราก็เดินไปตาม Exit A

แล้วเดินออกจากสถานีที่ Entrance A

 

เดินผ่านร้านแมคไปหน่อยแล้วก็เลี้ยวขวาเข้าประตูนี้ไป

ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นที่  2

ขึ้นมาแล้วทางซ้ายมือจะเห็น Booking Lobby สำหรับเดินไปซื้อตั๋วรถบัส

มีบริการตู้อัตโนมัติไว้ให้หลายตู้เลยแต่ก็เป็นภาษาจีนทั้งนั้น พวกเราเลยต้องเข้าไปซื้อที่พนักงานด้านในสุด

สิ่งที่พนักงานขอทุกครั้งก็คือ passport ต้องเตรียมพร้อมทุกคน จากนั้นก็บอกว่าไป “หวู่เซิ่น” ที่ดูเหมือนสำเนียงจะฟังเป็นภาษาจีนที่สุด จากนั้นพนักงานก็จะโขว์หน้าจอเวลาที่เราต้องการเลือก

พวกเราเลือกรอบเร็วที่สุด จ่ายเงินคนละ 31 หยวน ได้ตั๋วมา 2 ชุด บอก วันเวลาเดินทาง/เลขรถ/ที่นั่ง/ชานชาลา

ผ่านการตรวจกระเป๋า และเช็คพาสปอร์ตพร้อมตั๋ว ซึ่งต้องตรงกันกับเลขพาสปอร์ตด้วย

พอเดินเข้ามาตรงนี้มีที่ฝากกระเป๋าด้วย

ขึ้นชานชาลาที่ 4 เวลาเดินทางในตั๋ว 10:20 แต่รถเลท รถออกเวลา 10:38

เราเดินออกมาเช็คหน้ารถว่าถูกต้องแล้วก็เดินกลับไปขึ้นรถ

ที่นั่งบนรถบัส เข้ามานั่งตามเลขในตั๋วของตัวเอง

ถึงตัวเมืองกันแล้ว เราเดินมาด้านขวามือผ่าน Information Center ไป

แล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อไปซื้อตั๋วขากลับเตรียมไว้ก่อน (ถ้าเลี้ยวขวาจะไปขึ้นรถเมล์ไปอู่เจิ้น)

ซื้อตั๋วขากลับราคา คนละ 30 หยวน รอบสุดท้าย 18:25

จากนั้นก็เดินกลับมารอรถเมล์

ขึ้นหมายเลขรถ K350 ไปอู่เจิ้น ราคา คนละ 2 หยวน

นั่งมา 15 นาที ก็ถึงแล้วทางเข้า

เดินข้ามถนนมา ด้านขวามือมีตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ มีภาษาอังกฤษด้วย แต่จ่ายด้วยเงินสดไม่ได้ จ่ายได้แต่บัตรเครดิตเท่านั้น

พวกเราเตรียมเงินสดมาแล้วก็เลยเดินเข้าไปในตึก ตรงเข้าไปซื้อตั๋วกับพนักงานเลย

พวกเรามาทั้งทีก็อยากจะเข้าทั้ง West และ East แต่พนักงานถามว่านอนที่นี่เหรอ (ที่นี่มีพนักงานพอพูดภาษาอังกฤษได้) เราบอกว่าไม่ได้นอน เรากลับวันนี้ เค้าเลยบอกว่าควรเลือกเส้นทางใดเส้นทางหนึ่ง เพราะ West ใช้เวลาเที่ยวประมาณ 3 ชม. และ East ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.

เราเลือกทาง West (เราใช้เวลาเที่ยวทั้งหมด 4 ชม. รวมรับประทานอาหารเที่ยงด้วย) พนักงานรีบอธิบายเพิ่มเติมว่าตั๋วนี้ถ้าเข้าและออกมาแล้ว จะไม่สามารถเข้าไปได้อีกถึงแม้จะเป็นวันเดียวกันก็ตาม

ตั๋วเข้าชมของที่นี่ใช้แสกนเข้าอย่างเดียว นอกนั้นก็ไม่ได้ใช้อีก

ซื้อเสร็จแล้วจากเคาน์เตอร์ก็เดินไปทางขวา

มีพนักงานรอตรวจบัตร และแสกนให้พวกเราเข้าไปทีละคน

เข้ามาถึงเรารีบเดินนำไปดูวิวตรงสะพานก่อน มันสวยมาก

หลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในตัวตึกที่แสกนตั๋วเมื่อกี้ จะมีป้ายเขียนไว้ว่า Free Ferry ให้เราขึ้นข้ามฟากไป

เราเข้าไปนั่งได้ไม่นาน เรือก็เริ่มออกจากฝั่งพาเรามาชมคลองโบราณแห่งนี้

แต่เรือฟรีนี้แค่ 5 นาทีก็มาถึงอีกฝั่งนึงแล้ว ถ้าอยากชมวิวรอบอู่เจิ้นเวนิสต้องจ่ายค่าโดยสาร

เราเดินเข้ามาในตัวเมืองที่ยังคงอนุรักษณ์ความเป็นยุคสมัยเก่าให้เราได้เห็น

มีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้ง

พวกเราเดินเข้าไปในตรอกสไตล์จีนโบราณ

แวะเข้าไปบ้านหลังแรก ๆ ด้านขวามือ เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับงานแต่งงานของจีน

มีชุดให้เช่าแล้วเข้าไปถ่ายรูป

พอดีมีคนเช่าชุดมาถ่ายรูปพอดี ทุกคนรุมไปถ่ายกันใหญ่ เราก็เอาบ้าง

ราคาชุดแต่งงานให้เช่ารูป

มาดูทางด้านชุดแต่งกายสมัยก่อนกันบ้าง

นี่คือชุดชั้นในของสาวจีน เป็นผ้าเลื่อมปักลายที่เล็กมาก ๆ ไม่รู้ว่าคนสมัยก่อนตัวเล็กมาก หรืออยากจะใส่กันแค่นี้ ใส่แล้วคงดูสยิวกิ้วดีไม่น้อย

ห้องนอนเจ้าสาว

บ้านแต่ละหลังเก็บความขลังไว้ได้ดี

ดูแล้วลึกลับซับซ้อน

มีความขลัง

ยังมีคนอาศัยอยู่ บ้างทำร้านอาหาร บ้างทำที่พักอาศัยให้กับนักท่องเที่ยว แต่คนที่ยังอยู่จริง ๆ แบบสมัยก่อนอาจจะไม่มีให้เห็นแล้ว

ร้านนี้ที่เราหิ้วท้องเข้ามาด้วยความหิวโหย

มีเมนูภาษาอังกฤษด้วย แต่ต้องจิ้มที่เป็นภาษาจีนให้ดี เพราะเรานั้นจิ้มเป็นภาษาอังกฤษสรุปได้มาผิดอันตลอดเลย

ถ้วยแรกมาก็ผิดเลย  Casserole Mutton เนื้อแพะทั้งถ้วย จริง ๆ เราสั่งบะหมี่เห็ด ตอนแรกก็นึกว่าของคนอื่นเลยไม่ได้แจ้งพนักงาน ขุ่นแม่ก็ออกโอเคดี ส่วนเรานั้นแตะไม่ได้เลย

The sign face ของขุ่นพ่อที่สั่งจากการชี้ที่รูปหน้าร้านนั่นเอง บะหมี่เนื้อแพะเช่นเคย

Noodles with braised mutton นี่ก็เนื้อแพะ

 

Peanuts นี่แหละที่เรากินได้ในมื้อนี้

สุดท้ายสั่งผิดได้มาเป็นขาเป็ด แห้ง ๆ ที่คงไว้ตามเดิม

ในอู่เจิ้นนี้มีตรอกซอกซอยเยอะพอควร ที่ให้เราได้เดินเลาะไปมา

กลีบดอกบ๊วยที่ร่วงหล่น

สะพาพข้ามฟากสำหรับคนนเดินทางสัญจร

เด็กน้อยนั่งเล่นชิงช้า

โคมไฟรูปแบบเก่าตามร้านค้าต่าง ๆ

เข้ากันดีกับบ้านโบราณ

เราชอบหลังนี้เป็นพิเศษเลย

บนเรือนั่นเหมือนเป็นเรือขนสินค้า แต่เค้าทำท่าให้ดูเหมือนฉากในหนังที่จะมีมาเฟียคุมอยู่เลย

มีท่านลุงมานั่งซ่อมรองเท้าอยู่ด้วย ชอบจัง

หน้าต่างแบบขาตั้ง ภาพนี้ดูแล้วทำไมเราไปนึกถึงแม่นาก

เรือลำเดิมพายกลับมาอีกแล้ว หรือว่าเป็นเรือโชว์

พี่แก๊งมาเฟียก็ท่าเดิมเลยนะ

ตรอกอีกแล้ว แต่คราวนี้เป็นตรอกเล็ก ๆ

พวกเราเดินมากันจนจะสุดทางแล้ว

นักท่องเที่ยวเริ่มน้อยลงจากตรงนี้

พอมาเห็นภาพดอกไม้แบบนี้ทำให้นึกถึงญี่ปุ่นเลย

ตึกนี้คือที่ทำการไปรษณีย์

เรือท่องเที่ยวที่มาจอดรอลูกค้า

ตรงนี้ขุ่นพ่อเลิฟสุด ๆ งานไม้ที่ท่านลุงทำเองกับมือ จนขุ่นพ่ออดไม่ได้ขอซื้อถังมาจากท่านลุง 1 ใบ ซึ่งราคาก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่ด้วย

เจอร้านกาแฟหล่ะ เรานี่ท่าทางเหมือนกับพุ่งเข้าไป แต่รสชาติกาแฟที่นี่ก็จืดคล้ายกับที่อื่นที่เคยชิมมา

ตามด้วยไอติมผลไม้ สีขาว ๆ เป็นนม อร่อยดี

ขนมที่เอาเตารีดแบบที่เห็นนี้ นาบเข้าไปที่ขนม ภูมิปัญญาดีจริงๆ

QR Code ที่คุณลุงร้านท่ีขายแมลงปอที่ทำจากไม้ บอกว่าสามารถสแกนจ่ายเงินได้ แต่ที่ร้านในส่วนอื่นเค้าไม่ให้ถ่ายรูป ซึ่งขุ่นพ่อก็ได้แมลงปอมา 3 ตัว

ตรงนี้คงจะเป็นร้านน้ำชา

พวกเราเดินข้ามสะพานมาทางอีกฝั่ง

วิวตรงนี้สวยงามมองเห็นเจดีย์

ภาพนี้อยู่ตรงกลางสะพานพอดี

เดินข้ามฝั่งมาเจอวิวสงบ

นี่คือจุดที่เราอยู่ในแผนที่

ตรงนี้คล้ายกับโกดังเก็บของ

นี่เหมือนเป็นสเตเดี่ยมขนาดย่อม ๆ

มองกลับไปดูสเตเดียมเมื่อกี้

พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า

สงบดีจัง

บ้านหลังนี้สร้างให้โค้งไปกับน้ำ วิวดีมาก

เห็นเจดีย์ที่ผ่านมาแวบ ๆ

เข้ากันดีจัง

มีเรือผ่านเข้าบ้าง

สะพานเล็กๆ

จุดเดียวกัน

ร้านอาหาร

ฝั่งนู้นคนเยอะเหมือนกัน

แสงอาทิตย์ยังส่องผ่านมากระทบกับผนังบ้านเรือน

กลับมาตรงด้านหน้าก่อนออกจาก West

เราเดินออกมารอรถเมล์กันด้านหน้า

ถ่ายรูปรอรถเมล์

รถเมล์มารับเรามาส่งที่เดิม พวกเรามาเดินเล่นดูของฝาก และรอบๆ สถานีรถบัสสักหน่อย

จากนั้นก็กลับเข้าไปนั่งรอในสถานี

เราเดินออกทางชานชาลาที่ 2

เดินมาเช็คความถูกต้องด้านหน้ารถตามระเบียบ

ถึงแล้วก็ลงจากรถบัสแล้วเดินมาที่สถานีรถไฟ Coach Center เพราะวันนี้จะไปทานหม่าล่าหม้อไฟ ลด 70% ที่เจ้าของห้องที่เราเช่าแนะนำมา

นั่งรถไฟสาย 1 สีแดง ไปลงที่ Ding’an Road Station ซึ่งพวกเราก็คุ้นตาเพราะวันแรกก็เคยมาสถานีนี้ตอนขากลับจากตลาดเก่าเหอฟาง

เดินออกมาแล้วก็ให้ Google Map นำทางเราไปที่ carrefour supermarket ร้านจะอยู่ข้าง ๆ นี่เอง แล้วเดินเข้าไปตรงนี้ที่ชั้น 2

ในขณะที่เดินขึ้นบันไดไป เราเจอภาพที่ทำให้สะดุดเล็กน้อย นั่นคือกบ ซึ่งเหมือนจะเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่

พี่ชายถาม ลองเอามาหน่อยมั้ย ทุกคนรีบตอบ nooo พอเมนูมาถึงพวกเรากำลังจะหยิบ Google Translate ขึ้นมา เวลานั้นคนจีนเจ้าของโรงแรมที่เราเช่าก็เข้ามาและช่วยเลือกเมนูให้ มื้อนี้เราบอกว่าไม่เอาแกะและแพะและกบ ขอเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อปลาก็พอซุปที่เลือก ขาดไม่ได้เลยคือซุปหม่าล่าที่ทุกคนอยากลอง และซูปจืดมาเผื่อทรมารจากความเผ็ด

หม้อที่นี่ทำเป็นหัวมังกรอย่างดี และโดดเด่น

รายการอาหารทั้งหมดส่งมาให้ดูที่โต๊ะ ซึ่งเราก็สามารถแสกนดูได้ผ่าน QR Code เช่นเคย

เค้ามีโซนผลไม้และถั่วทอดกรอบให้เรามาหยิบได้เรื่อย ๆ ส่วนน้ำจิ้มนั้นเค้ามีวัตถุดิบไว้ให้ แล้วเชิญเราไปเลือกปรุงได้ตามสบาย แต่สำหรับเราความอร่อยมันอยู่ที่น้ำจิ้มนี่หล่ะ ทีนี้จะผสมอะไรลงไปดีหล่ะ

ขนมนี้นำมาเสริฟเป็นอันดับแรก ซึ่งเราชอบมาก มันเป็นแป้งโมจิปิ้งแล้วโรยด้วยน้ำตาลอ้อย ที่คนจีนพูดว่า Special เลย

มาแล้วอาหารพร้อมซ่าและลิ้นชา

ผักพอหอมปากหอมคอเท่านั้น ซึ่งของอร่อยเด็ด ก็คือเต้าหู้ยาว ๆ กัดเข้าไปแล้วเหนียวนุ่ม เส้นบะหมี่ใหญ่ ๆ ก็อร่อยถึงเวลาซ่าแล้ว พวกเราลุย

ราคาวันนี้ ลด 70%  อย่างที่บอก จาก 347 บาทเราจ่ายกันไปแค่ 199 บาทถ้วน

อิ่มหนำแล้วกะจะมาเดินช๊อปปิ้งกันต่อ แต่พอเดินลงมาคาร์ฟูปิด 4 ทุ่ม ซึ่งก็คือเวลานี้พอดี อดเลย

ขากลับพวกเราเดินเล่น ย่อยอาหาร ชมวิวรอบทะเลสาบซีหู กลับโรงแรม

————————————————————————————————————
ค่าใช้จ่ายต่อคน (12/3/18) 

💰ค่ารถไฟไปกลับ 10 + บัสขาไปอู่เจิ้น 31 + บัสขากลับ 30 + รถเมล์ไปกลับ 4 = 76 CNY

🍛ค่าอาหาร 109 CNY

💰ค่าเข้าอู่เจิ้น 150 CNY

🏨 Airbnb the bund 1240 baht


🙂กดไลค์ & แชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ🙂

ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่ FACEBOOK : Me Diary 


รีวิวท่องเที่ยวจีน

[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 1 : จากเซี่ยงไฮ้สู่หางโจว >> ร้านอาหาร Xin Bai Lu >> เดินเที่ยวรอบทะเลสาบซีหู >> ศาลากลางน้ำ Jixianting >> ช๊อปปิ้งตลาดเหอฟาง

[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 2 : ชมซากุระ >> ไร่ชาหลงจิ่ง >> เจดีย์เหลยเฟิง (Leifeng Pagoda)

[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 3 : เมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง (宋城, Song Dynasty Town)

[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 4 : อู่เจิ้น (Wuzhen Water Town) เวนิส เมืองโบราณจีน

[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 5 : ล่องเรือซีหู >> กลับเซี่ยงไฮ้

[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 6 :สวนอี้หยวน>>เฉินหวังเมี่ยว>>พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้

[รีวิวเที่ยวจีน2018] : DAY 7 : เมืองโบราณหนานเสียง >> เก็บสตรอว์เบอร์รี่

[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 8 : ซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ >>Metro City >> The Bund

[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 9 : ตลาดหาคู่ >> สตาร์บัคที่ใหญ่ที่สุดในโลก >> ผังเมืองเซี่ยงไฮ้ >> สนามบินผู่ตง

บทความที่เกี่ยวข้องกับจีน

[รีวิวจีน1] : วิธีซื้อตั๋วรถไฟในเซี่ยงไฮ้

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: