Tag: วิธีเดินทาง
-
[รีวิวสิงคโปร์] : ถ่ายรูปชิคๆ ที่สะพานรูปเกลียวคลื่นเฮนเดอร์สัน เวฟ(Henderson Waves Bridge)
Henderson Waves Bridge สะพานที่สร้างด้วยไม้นำมาต่อกันเป็นรูปเกลียวคลื่นเฮนเดอร์สัน เวฟ(Henderson Waves Bridge) และเป็นสะพานคนเดินที่สูงที่สุดของประเทศสิงคโปร์ แล้วก็เป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สามารถเดินลัดเลาะไปตามป่าของภูเขาเฟเบอร์(Faber Mount) เป็นระยะทางถึง 10 กิโลเมตร —>วิธีเดินทางง่ายๆ นั่ง MRT สายสีม่วงหรือเหลืองลงที่สถานี Harbourfrontทางออก VivoCity จากนั้นเดินออกมาที่ป้ายรถเมล์หน้าห้างVivo สาย 131 กับ 145 อันไหนมาก่อนก็ขึ้นได้เลย ไปถึงเหมือนกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ที่นี่ต้องนั่งรถเมล์มาได้อย่างเดียว แล้วก็ต้องเดินขึ้นบันได สูงอยู่เหมือนกันนะ อากงอาม่านี่คงไม่ค่อยไหวเท่าไหร่ นี่คือการพักชมวิวระหว่างขึ้นบันได ไม่ใช่เหนื่อยเล้ย เห็นข้างบนไกลๆ ดูไปดูมานึกว่ารางรถไฟฟ้าเลยนะแกร555 เดินขึ้นมาเห็นสิ่งนี้คือ สัญลักษณ์บอกว่าใกล้ถึงแล้วเย้ มาถึงตรงสะพานปุ๊ป ความวุ่นวายของความเป็นเมืองหลวงของสิงคโปร์ก็หายไป เหมือนกำลังนั่งมองโลกที่หมุนไปอย่างว่าวุ่นอยู่ข้างนอก กับสะพานรูปเกลียวคลื่นที่ทำด้วยไม้ชิ้นเล็กๆ มาต่อกัน จนได้ความโค้งของเกลียวคลื่นที่มาบรรจบกัน คนออกแบบนี่ช่างคิดจริงๆ ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ และมาเดินเล่นออกกำลังกายได้ด้วย เราเห็นคนมาวิ่งกันเยอะเหมือนกัน…
-
[รีวิวไต้หวัน] : ตลาดกลางคืนฝ๋งเจี่ย (Feng Chia Night Market/逢甲夜市)
นั่ง Taxi จากโรงแรม Twin Star Hotel พนักงานที่โรงแรมเรียกให้ เดินทางประมาณ 30 นาที ค่าแท๊กซี่ 275 NT ในเวลา 2 ทุ่ม คนเยอะมาก เดินตรงเข้าเจอซอยแรกด้านขวามือก็เลี้ยวเข้าไป ร้านที่เห็นตรงหน้าคือร้านแรกที่เราไปลุย ที่เห็นคนต่อคิวนั้นคือร้านไก่ที่เราลุยต่อหลังจากนั้น55( เห็นขนมจีบด้านหน้าร้านน่ากินๆ ขุ่นแม่ชวนป่ะ กินๆๆๆ 9 ลูก 100 NT ⭐️⭐️ ตัวแป้งออกจะแข็งไปหน่อย แต่มีข้าวเหนียวดำคล้ายขนมบ้านเรา อร่อยดี อันนี้อะไรไม่รู้ เห็นน่าทานก็ชี้เอา ราคา 55 NT ปรากฎว่า “อร่อยจ้า” ⭐️⭐️⭐️⭐️ ขุ่นพ่อเหลือบไปเห็นหอยทอดหน้าร้าน น่ากินอีกแว้ว สั่งเลยจ้า ราคา 60 NT แป้งบางด้านในนุ่มด้านข้างกรอบ หอยสดมากกก รสชาติออกจืดหน่อย ⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ 4 ดาว ต่อด้วยร้านไก่ทอดเมื่อกี้ที่คนต่อคิวยาวเหยียด ราคา 70…
-
[รีวิวฮอกไกโด] : ลิงแช่บ่อน้ำร้อน ที่สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อน (Hakodate Tropical Botanical Garden /函館市熱帯植物園)
มาฮอกไกโดได้ยินมาว่ามีสถานที่ดูลิงแช่น้ำร้อน เดินทางง่าย ไม่ไกลจากตัวเมืองฮาโกดาเตะ(Hakodate) ตอนนี้เราก็มายืนอยู่ที่เมืองนี้กันแล้ว ฮาโกดาเตะ เมืองแห่งท้องทะเลฮอกไกโด วันนี้เราเก็บภาพฝาท่อของเมืองนี้ได้ 3 อัน เป็นงานอดิเรกในการมาเที่ยวญี่ปุ่นในทุกๆครั้ง เรานั่งรถบัสที่ชื่อว่า Hakodate Bus หมายเลข 96 มาลงป้าย Nettai Shokubutsu-en แล้วเดินข้ามสะพานที่มองออกไปเป็นท้องทะเลและฟ้าสีคราม จากนั้นก็มีป้ายบอกทางให้เดินไปต่อที่สวนพฤกษศาสตร์เป็นรูปลิงเป็นสัญลักษณ์ และแล้วก็เดินมาถึงหน้าทางเข้าสวนแห่งนี้กันแล้ว สวนพฤกศาสตร์เขตร้อนเมืองฮาโกดาเตะแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณน้ำพุร้อนยุโนคาว่า (Yunokawa Hot Spring) ค่าเข้า 300 เยน แลนมาร์คอย่างแรกที่ทุกคนมุ่งตรงไปก็คือเจ้าลิงนี่ไง นั่งชมความน่ารักของลิงในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน แต่เสียดายลิงไม่ยอมแช่ออนเซน ที่นี่เป็นสถานที่ที่ปลูกพืชเมืองร้อนอย่างบ้านเราด้วยนะ เดินเข้าไปจะได้เจอกับต้นไม้ ดอกไม้ที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ไม่น้อยเลย อย่างเช่นดอกไม้ชนิดนี้ ชื่ออะไรน้ ขุ่นพ่อขุ่นแม่มานั่งเล่นรออยู่ที่ใต้ต้นดอกเฟืองฟ้า แหมม โรแมนติกจังเลยน้า มีน้องเต่า ปลาคาร์ฟ ด้านนอกมีที่แช่เท้าด้วย เวลาเปิด-ปิด เดือนเมษายน – ตุลาคม เวลา 9.30 – 18.00 น. เดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เวลา…
-
[รีวิวสิงค์โปร์] : สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ (Singapore Botanic Gardens)
สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์แห่งนี้เป็นสวนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ และยังกว้างสุดๆ อีกด้วย มีพื้นที่ตั้ง 60 เอเคอร์โดยถูกแปลงโฉมจากพื้นที่รกร้างในสมัยก่อนให้กลายมาเป็นป่าไม้อันร่มรื่นนานาพรรณ เป็นพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย เดินเล่น สูดอากาศดีๆ ได้เต็มปอด ปัจจุบันจึงได้รับความนิยมมาก ขนาดตอนกลางวันร้อนๆ ที่เรามาเดินแล้วรู้สึกเหงื่อแตกพลั๊กๆ แบบนี้ก็มีอีกหลายคนมาเดินเหงื่อแตกเป็นเพื่อนอีกด้วย 555 ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกด้วยนะ ใครรักต้นไม้ ชอบเดินเล่นอยู่ในป่า อยากชาร์จแบตฯ หลีกหนีความวุ่นวาย มาค่ะมา มันก็ทำให้สบายกายสบายใจได้ดีเลยแหละ (*แต่อย่ามาตอนกลางวันเลย มิเช่นนั้นอาจจะหนักกว่าเดิม555) เราเดินมาเรื่อยๆ มาเจอท่านโชแปงกำลังประพันธ์เพลงให้ผู้สาวนางหนึ่งฟัง ดูหน้านางแล้วไม่อาจทราบได้ว่าเพราะรึเปล่า 555 แต่จากลักษณะการวางรูปปั้นสไตล์นี้ เรารู้สึกชอบจังไม่รู้ทำไม มันสื่อถึงอารมณ์ดี ซึ่งรูปปั้นนี้จะอยู่ตรง Show Foundation Symphony Stage ที่จะมีคอนเสิร์ตเพลงบรรเลงคลาสสิคให้ฟังในทุกวันอาทิตย์ด้วย แต่เสียดายเราไม่ได้มาตรงวันอาทิตย์ เลยดูเวทีไปพลางๆก่อนละกันนะ 📌พิกัด📌 🚗1.3138397,103.8159136 ⏱เวลาเปิด : 05:00 – 24:00 💵ราคา : free link : https://www.nparks.gov.sg/sbg ★★★Review★★★ ให้ ⭐️⭐️⭐️ 3 ดาว จริงๆคือสวยนะ แต่เรามาตอนกลางวันมันร้อนมากๆ เลย ที่นี่ยังเป็นแหล่งวิจัยพืชพรรณด้วย…
-
[รีวิวสิงคโปร์] : วิธีเดินทางสนามบินชางฮีเข้าตัวเมืองด้วย MRT (Changi Airport to town)
สายการบิน Lion Air สายการบินชั้นประหยัดเปิดรูทใหม่ไปสิงคโปร์มาได้สักพัก วันนี้มีโอกาสได้ลองใช้สักทีว่าเป็นอย่างไร มาถึงสนามบินดอนเมืองก่อนเช็คอิน 3 ชม. พอเข้ามาปุ๊บขุ่นพ่อโทรมาบอกว่าซื้อเหล้าที่เอาไว้ทำกาแฟให้ด้วย ไม่ทันออกจากประเทศเลยนะขุ้นพ่อออ ซื้อเสร็จก็ไปนั่งเลาจ์ King Power รอเครื่องเปิด https://me-diary.com/2018/09/25/review-lounge-king-power-donmuang/ นั่งเครื่องจากไทยไปสิงคโปร์ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถือว่าไม่นานนัก ที่นั่งของ Lion Air ก็เลยไม่มีปัญหากับเราเท่าไหร่ แต่อาจจะเล็กไปนิดสำหรับคนตัวใหญ่ๆ อย่างชาวต่างชาติ บริการต่างๆ บนเครื่อง เช่น อาหาร น้ำ เราต้องซื้อเพิ่ม แต่อย่างที่บอก 2 ชั่วโมง แปปเดียวตื่นมาอีกทีก็ถึงน่านน้ำสิงคโปร์แล้ว เราลงเครื่องที่ terminal 3 แล้วก็เดินไปตามป้าย sky train to arrival นั่งรถไฟเพื่อต่อไปยังอาคาร immigration ออกจากรถไฟเดินลงบันไดเลื่อนจะเจอรูปปั้นชายหญิงต้อนรับอยู่ เข้าไปimmigration เสร็จแล้วก็ไปเอากระเป๋า ใครทนไม่ไหวจะช๊อปเลยก็ย่อมได้ เพราะมีร้านรอให้เราพร้อมเปย์อยู่ตลอดทางเดิน555 และแถวนี้มีน้ำฟรีให้กดอยู่เป็นระยะสำหรับคนที่อยากตุนน้ำก่อนเข้าเมืองด้วย เราจะเดินทางเข้าเมืองด้วยรถไฟ มีป้ายTrain to cityบอกอยู่ตลอดทาง ออกมาเจอร้านคิตตี้…
-
[รีวิวเที่ยวจีน2018] : Day 1 : จากเซี่ยงไฮ้สู่หางโจว>>ร้านอาหาร Xin Bai Lu >> เดินเที่ยวรอบทะเลสาบซีหู>> ศาลากลางน้ำ Jixianting >> ช๊อปปิ้งตลาดเหอฟาง
:+:+:+:Day1:+:+:+: ดูแผนท่องเที่ยวที่นี่ –> Day1 : เซี่ยงไฮ้สู่หางโจว >> ซากุระ >> ไร่ชา >> Broken Bridge >> น้ำพุเต้นรำ เริ่มต้นการเดินทางขึ้นเครื่องยามค่ำคืนของเมื่อวาน และขณะนี้เวลา ตี5ครึ่งเช้าตรู่ เครื่องบินวิ่งเข้ามาเทียบท่าอากาศยานนานาชาติสนามบินผู่ตง, เซี่ยงไฮ้อันเป็นที่เรียบร้อย เราเดินออกมาจากตัวเครื่องท่าทางสะโหลสะเหลและตาปรือ เนื่องจากใช้เวลาเดินทางแค่ 4 ชม. นิดๆเท่านั้น แต่เมื่อเท้าเหยียบเข้ามาในห้องโถงที่กว้างใหญ่เท่านั้นหล่ะ ตาปรือๆ ก็เริ่มสว่างขึ้นมาทันที ทุกอย่างดูครบครัน ทันสมัยต่างจากความคิดก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง มาถึงตม.เจ้าหน้าที่เค้าก็หน้านิ่งๆ เคร่งครึม พวกเราก็เดินยืดอกพกถุง เอ้ย พกความมั่นใจพากันเดินเข้าไปยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่กันทีละคน ที่เหลือก็ปล่อยไปตามบุญวาสนาที่เคยทำแต่ปางก่อน หืมม ไม่ขนาดนั้นเพราะเค้าไม่โหดเหมือนตม.ที่เกาหลีหรอก สำหรับเราเค้าไม่ถามอะไรเลยสักคำ แต่พี่ชายโดนถามว่า “มาเที่ยวเหรอ” “มากี่วัน” แค่นั้นก็เรียบร้อยได้เวลารอรับกระเป๋ากันแล้ว ลากกระเป๋ามาผ่านด่านต่อไปคือ ท่านกรมศุลกากรผู้คอยตรวจสอบของต้องห้ามในกระเป๋าที่ปล่อยให้พวกเราเดินออกมาอย่างสบายใจเฉิบไม่มีตรวจหรือถามอะไรสักคำ เดินออกมาแล้วก็เลี้ยวขวา เงยหน้าขึ้นมาก็เจอป้าย Long distance bus เป้าหมายของเรา ในระหว่างที่เดินตามเส้นทางเพื่อไปยัง Long Distance Bus คนรักขนมหวานอย่างพวกเราก็เหลือบไปเห็นร้านขายของ…